• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

LIVE ONCE

Only Live Once, Smart Life, Spend Wisely - dogs, travel, tech, running and freedom

  • Travel
  • LifeStyle
  • Sport
  • Book
  • Tech
You are here: Home / Home

รีวิว MOTOROLA ATRIX 4G AT&T … [Part.2]

August 30, 2011 by Chaiyasit Admin 3 Comments

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับคนที่ใช้งาน MOTOROLA ATRIX อยู่ ด้วย Spec ที่มาพร้อมและไม่ได้ขี้เหล่ ไม่ว่าจะเป็น Dual Core CPU ที่ 1Ghz แรม และรอมที่ให้มาใช้อย่างจุใจ กล้องหลังขนาด 5Mega Pixels พร้อมกล้องหน้าที่แม้จะห่วยไปหน่อย แต่ก็ยังมีไว้ให้ใช้ได้ขำๆ รวมไปถึงแบตความจุที่พอเพียง 1930 mAh ที่จะใช้ได้พอหมดวัน [2G อยู่ทั้งวันได้สะบายๆ แต่ถ้า 3G ของผมใช้เฉลี่ยอยู่ได้ 7-10 ชม.]

MOTOROLA ATRIX 4G

รวมไปถึงความสามารถพิเศษที่ให้มาอย่าง Fingerprint Reader ที่สะดวกสบายมากมายเวลาใช้งาน ไม่ต้องมานั่งเสียเวลากดพาสเวิร์ดต่างๆ เวลา unlock หน้าจอ พร้อมกันเพื่อนๆมือบอนที่อาจจะมาเผลอกด Factory Reset เครื่องเรา

มาวันนี้จะขอเขียนต่อ [Part.2] ซึ่งจะเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของเจ้า Atrix  ที่มือถือเจ้าอื่นๆ ไม่มี เป็น Gimmick ที่สามารถไปโม้กับชาวบ้านชาวช่องเขาได้ ไอ้ความสามารถนี้มันมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่มากลับกล่อง Atrix ของเรานั้นแหละครับ หากสังเกตุดีดี เราจะพบสาย Mini HDMI ที่แถมให้มาด้วย อันนี้แหละครับคือพระเอกของเราในสิ่งที่คนๆอื่นเขาไม่มี เขาไม่ให้มา แต่เจ้า MOTOROLA ATRIX ของเรานั้นทำได้ ^0^

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มความสามารถพิเศษอย่างแรกเลยดีกว่าซึ่งก็คือ

Entertainment Center

อยากรู้ว่าไอ้เจ้า Entertainment Center นี้มันคืออะไร ไว้ใช้ทำอะไรก็ให้หยิบสาย Mini HDMI ที่แถมมาด้วย มาเสียบกับด้านข้างซ้ายของเจ้า Atrix ของเราเลยครับ และนำมันไปเสียบต่อกับช่องสัญญาน HDMI ของทีวี หรือหน้าจอ Monitor ที่บ้านเราครับ

หลังจากเสียบเรียบร้อยแล้วหน้าจอ Atrix ของเราก็จะขึ้นหน้าจอดังนี้

Mini HDMI to TV
WebTop & Entertainment Center

.

.

.

.

.

.

แล้วเราก็เลือกอันที่ 2 เลยครับ Entertainment Center ซึ่งหลังจากเลือกแล้วหน้าจอของ Atrix ก็จะแปลงรูปร่างออกมาเป็น Media Controller ซึ่งมีหน้าตาที่ละมล้ายคล้าย iPod เสียจริงๆ รวมไปถึงบนหน้าจอทีวีเราก็จะแด่นตะหง่านด้วย หน้าจอประนี้

Entertainment Controller
Entertainment Center

.

.

.

.

.

.

ครั้งแรกที่เล่นผมก็ร้อง WOW! เลยทีเดียว เพราะใน Entertainment Center เราสามารถที่จะจัดการ Media files ที่มีอยู่ในเครื่อง Atrix ได้ไม่ว่าจะเป็น เพลง รูปภาพ หรือ วีดีโอ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมก็ ใช้ Media Controller บน Atrix เลือกไปที่ Music เลยครับ มาดูกันว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรบ้าง

Album Sorting
Music Player

.

.

.

.

.

.

หลังจากกดเข้ามาแล้ว มันจะอัพเดทเพลงทั้งในตัวเครื่องและใน SD Card ของเราครับ โดยที่เราสามารถที่จะ Sort เพลงได้ 4 แบบ คือ Playlist, Artist, Album, และ Song ซึ่งในรูปผมจะโชว์การ Sort แบบ Album เพราะว่ามันโชว์ Album covers ขึ้นมาให้ด้วย ส่วนอีกรูปนึงก็จะเป็นหน้าตา Music Player เมื่อเราเลือกเพลงที่จะเล่นเสร็จ แต่หากสังเหตุดีดี จะพบว่ามีปัญหาในการอ่านภาษาไทยนะครับ อ่านไม่ได้ >.<!

และข้อดีของการเล่นเพลงผ่าน Entertainment Center นี้คือ เสียงเพลงจะไปออกที่ลำโพงของทีวีนะครับ 😉 เพราะเราได้สาย HDMI นำส่งข้อมูลไปทั้งภาพและเสียง และภาพและเสียงที่ได้ก็ได้มาในคุณภาพที่ดีเยี่ยม

หลังจากผมฟังเพลงไปได้สักพักก็เออมาดูกันต่อครับว่า Motorola Atrix Entertainment Center นี้ยังทำอะไรได้อีก ผมก็จัดการกด back ออกมา ยังหน้า Main แล้วเข้าไปยังหน้า Picture ครับซึ่ง ณ ขณะนี้แม้ว่าผมจะเข้ามาอยู่ในหน้า Pictures ที่จะลิส Folders ต่างๆ ในเครื่องรวมไปถึงความสามารถที่จะเล่น Slideshow ได้ด้วย เสียงเพลงที่ผมเปิดทิ้งไว้ใน Music ก็ยังคงเล่นอยู่นะครับ 😉 แหล่มเลยทีเดียว

Pictures Alignment
(Not) Full Screen Viewer

.

.

.

.

.

.

สำหรับการเปิดดูรูปไม่ว่าจะเป็น Slideshow หรือว่ากดเองแบบ manual ก็ทำได้โอเคลื่นไหลพอสมควรครับ แต่สิ่งที่เสียดายก็คงจะเป็นการแสดงผลแบบที่ไม่เชิงเต็มหน้าจอเท่าไหร่นัก อย่างตัวอย่างนะครับ หรือว่าอาจเป็นเพราะรูปของผมมันมาเป็นแบบ สี่เหลี่ยมจัตุรัส มั้ง scale การแสดงผลเลยไม่เต็มจออย่างที่ต้องการ แต่ถ้ารูปออกมาเป็นแบบ Widescreem นี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับยังไม่ได้ลองดู

ที่เหลือก็จะเป็นในส่วนของ Video และ Setting นะครับ ซึ่งสำหรับตัว Video ก็เหมือนกับการเล่นเพลงหรือเล่นรูป และในส่วนของ Setting ก็คือการตั้งค่า interval ของ Slideshow ว่าจะให้โชว์กี่วินาทีก่อนเปลี่ยนภาพและ Screensaver เท่านั้นเอง

โอโหอะไรกันนี้แค่พูดถึง Entertainment Center นี้ก็กินหน้าไปเยอะมากแล้ว เอาเป็นว่า Blog ผมจะพยายามทำให้สั้นและกระชับที่สุดนะครับและจะพยายามใช้รูปภาพในการประกอบให้เยอะที่สุดด้วยเช่นกัน….  [ a picture is worth a thousand words ]

ตัวความสามารถพิเศษต่อมาที่ผมจะพูดถึงก็คือตัว

Webtop

ซึ่ง Webtop จะให้อธิบายสั้นๆเข้าใจง่ายในความรู้สึกของผมก็คงจะเป็น

“การจับ MOTOLORA ATRIX มาเป็นเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเอาไว้ใช้งานทางด้านต่างๆคล้ายเราใช้ Windows”

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับมาดูกันแบบเต็มๆเลยดีกว่าว่า Webtop บน Motolora Atrix มีหน้าตาเป็นเช่นไร

ATRIX Webtop

เป็นยังไงบ้างครับ ตัว Webtop ของ Motorola Atrix โดยคร่าวๆ มันก็คล้ายๆกับการแปลง Atrix มาใช้งานเป็นเครื่อง Desktop ครับ นอกจากนี้เราจะเห็นว่า จะมี Mobile View ซึ่งจะแสดงผลตามหน้าจอใน Atrix ของเราจริงๆ ซึ่งเราสามารถที่จะใช้งาน Application ต่างๆที่อยู่บนเครื่อง Atrix เราได้เลย และยังสามารถแสดงผลออกมาเป็นแบบ Full Screen ได้ด้วย

MOLOME on webtop
Webtop Controller

.

.

.

.

.

.

อันนี้ผมลองเปิดโปรแกรม MOLOME นะครับ เราก็สามารถใช้งาน MOLOME บน Webtop ได้เลย จอใหญ่สะใจดีครับ ฮิๆ หลายๆ คนคงสงสัยว่าแล้วผมจะคอนโทรลการใช้งานได้อย่างไร ก็มาดูรูปต่อไปเลยครับ ตัวเครื่อง Atrix เมื่อเปิดใช้งาน Webtop mode แล้วจะแปลงกลายออกมาเป็นเหมือน Touch Pad ยังไงยังงั้น ตรงพื้นที่สีดำๆ นั้นเราก็เอานิ้วเราลากๆ ตำแหน่งของ Mouse cursor บน Webtop ก็จะลากตามครับ 😉

และขณะที่เราใช้งาน Webtop อยู่ในหากว่าเพื่อนเราจาก Whatsapp ทักเราเข้ามา ในหน้าจอ Webtop ก็จะแสดง Notification แล้วเราก็สามารถที่จะตอบกลับบน Webtop ได้เลย

Webtop Notification
Full Screen Dialer

.

.

.

.

.

.

อย่างรูปบนนี้เป็นการแสดง Whatsapp Notification นะครับ นอกจากนี้หากเราสังเกตุ Shortcut ข้างล่างก็จะเห็นว่าเราสามารถใช้งานโทรศัพท์บน Webtop ได้เลยเช่นกัน รวมไปถึงการบริหาร Contact และ Mail ซึ่งการใช้โทรศัพท์จะเป็นโหมด Speaker Phone นะครับ หรือหากเราใช้ Bluetooth ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน

ส่วน Application Bar ด้านล่างส่วนขวา ไล่มาเลยนะครับก็จะคือ File Manager เอาไว้ดูแลจัดการไฟล์ต่างใน Atrix .. ถัดมาก็จะเป็น shortcut ที่เอาไว้เปิด Webtop Zone ต่อมาก็เป็น Firefox Browser และก็ Facebook ส่วนอันหลังสุดนี้ผมจำไม่ได้แหะ >.<!

Webtop Application
MOTO Application Windows

.

.

.

.

.

.

รูปซ้ายนี้ผมก็เปิด File Manager, Facebook, และ Firefox ให้ดูนะครับ แต่ถ้าสังเกตุดีดี จะมีปัญหาในการแสดงภาษาไทย เช่นเดียวกับที่เราเจอใน Entertainment Center แย่หน่อยครับ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะถ้าอยากให้ใช้ภาษาไทยได้ ก็แค่เข้าไปใน Mobile Mode แล้วไปเปิด Android Browser แล้วปรับให้เป็น Full Screen ก็พอใช้ได้ถูๆไถๆ ไปครับ ส่วนรูปขวาก็เป็น Motorola Application Windows นะครับ ก็จะโชว์ว่า ณ ปัจจุบันนี้มี Application ไหนบ้างที่กำลังใช้งานอยู่ แล้วสามารถที่จะเปิด ปิด สลับไปมาได้ ช่างใช้งาน CPU แบบ Dual Core ได้คุ้มค่าจริงๆ เลยสำหรับ Webtop ตัวนี้ ; )

หลายคนอาจจะสงสัยนะครับ ว่าไม่เห็นผมต้องซื้อ Webtop Add-on มาเลย ทำไมผมใช้งาน Webtop ได้ ตรงนี้ก็ต้องให้เครดิตชาว xda-developers หน่อยนะครับ ด้วยที่เขาได้พัฒนา Rom ที่มีชื่อว่า Ginger Blur แล้วก็พัฒนาให้สามารถใช้งาน Webtop ได้โดยที่ไม่ต้องไปซื้อ Accessories เพิ่มครับ ^0^

และนี้ก็เป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของ Android นั้นเอง ด้วยการที่มันเป็นระบบที่เปิด รองรับให้นักพัฒนาต่อยอดสิ่งต่างๆบน Android ทำให้เราชาว Android มี Application มี Rom มีอะไรต่างๆ ใหม่ๆ มาให้เราได้ลิ้มลองเล่นกันเสมอๆ และสุดท้ายที่จะพูดถึงในวันนี้นะครับซึ่งก็คือ

MOTO Phone Portal

ก็อธิบายง่ายๆ ว่าเจ้า Phone Portal นั้นคือความสามารถในการ manage ข้อมูลต่างๆ บน Motorola Atrix ด้วยคอมพิวเตอร์ของคุณโดยผ่านการเชื่อมต่อแบบ USB หรือ Wifi นั้นเอง

MOTO Phone Portal

รูปด้านบนอันนี้หากสังเกตุจะเห็นว่าเราใช้วิธีเชื่อมต่อกับ Motorola Atrix โดยผ่าน Web Browser นะครับ ซึ่ง ณ ที่นี้ผมใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบ Wifi น่าตาวิธีใช้งานก็ง่ายเสียแทบจะดีดดิ้น แค่ใส่ Ip address ให้ตรงแล้วเลือก Port ให้ถูกก็เป็นอันจบ (โอ้ เรายังสามารถที่จะตั้งพาสเวิร์ดไว้ได้ด้วยนะครับสำหรับการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย)

มาดูกันดีกว่า ว่าเจ้า MOTO Phone Portal นั้นมีความสามารถที่จะใช้งานอะไรได้บ้าง

Phone Portal Main
Phone Portal SMS

.

.

.

.

.

.

โดยหลักๆแล้ว MOTO Phone Portal จะแบ่งออกเป็น 6 เมนูหลัก แต่ที่ใช้กันจริงๆ ก็คงน่าจะเป็นแค่ 4 ส่วนซึ่งก็คือ Home / Contact / Photos / และ Settings

โดยในหน้า Home ก็จะแสดงผล Mobile Inbox ซึ่งจะเป็น รายการ Call Records ต่างๆ และ SMS ส่วนด้านขวาก็จะแสดง รูปภาพล่าสุดในเครื่อง Atrix ซึ่งในหน้านี้เราสามารถที่จะ ส่งข้อความ SMS โดยผ่านตัว Phone Portal ได้เลย (ผมว่ามันก็งั้นๆ อะนะ)

ถัดมาก็จะเป็นส่วนของ Contact ซึ่งเราก็สามารถที่จะ Edit / Import / Export รายชื่อติดต่อของเราได้

ส่วนด้าน Photos ก็ตามชื่อนะครับ เราสามารถที่จะเล่น Slideshows และยังมี Basic Photo Edit เช่น Rotate, Crop อะไรง่ายๆ ได้

ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วน Settings นี้แหละ เพราะในส่วนนี้เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยน Ringtone และสามารถที่จะ Manage Bookmark และ Browsing History ได้ครับ

Phone Portal Settings
Phone Status

.

.

.

.

.

.

เป็นยังไงบ้างครับ เรียบร้อยแล้วสำหรับรีวิวประสบการณ์การใช้งาน MOTOROLA ATRIX 4G กับ Gimmick เล็กๆ น้อยๆ ที่เราชาว MOTOROLA พอจะเอาไปคุยโม้กับคนอื่นได้บ้าง ^0^

Filed Under: Tech Tagged With: atrix, Entertainment Center, Gimmick, Phone Portal, Webtop

รีวิว MOTOROLA ATRIX 4G (AT&T) … [Part.1]

July 3, 2011 by Chaiyasit Admin 2 Comments

พระเอกของวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นมือถือ Android Phone ตัวใหม่ที่เป็น Dual Core CPU ตัวแรกของ Motorola ครับ ที่ปล่อยออกมาที่ประเทศอเมริกาประเทศแรกไล่ๆเลี่ยๆกับเจ้า LG Optimus 2X ที่เขาอ้างกันว่าเป็นมือถือ Dual Core ตัวแรกของโลกนั้นแหละ เจ้ามือถือตัวนี้มีอะไร มันดีหรือไม่ดี มันน่าใช้หรือเปล่า และรายละเอียดปลีกย่อยตามประสบการณ์ที่ผมได้ใช้มาก็น่าจะเกือบเดือนแล้ว พร้อมจะมาบอกเล่าสู่แบ่งบันให้ฟังกันนะครับ

MOTOROLA ATRIX 4G (at&t)

เห็นหน้าตาแล้วเป็นยังไบ้างเอ่ย ดูเรียบๆเป็นทรง Candy Bar สไตล์อเมริกัน แนวดุดัน วัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ก็จะเป็นพลาสติกนะครับแต่การประกอบตัวเครื่องอะไรพวกนี้ประกอบได้แน่นหนา ดูทนทาน เหมาะมือดีครับ

ส่วนตัวเครื่องตัวนี้เป็นเครื่องของ AT&T นะครับพอดีหิ้วเข้ามาก็เลยได้ใช้ก่อนชาวบ้านเขานิดหน่อย สเปคทุกๆอย่างก็จะเหมือนกับตัวที่ SIS Thailand เพิ่งนำเข้ามาขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเองสดๆร้อนๆ แต่จะมีจุดต่างกันตรงที่ตัวของ AT&T นี้รองรับ

2G Network (GSM)

ที่ย่านความถี่ 850 / 900 / 1800 / 1900 แสดงว่าสามารถใช้ได้ทั้ง DTAC (850) / TRUE (1800) / และ ……… โอ๊ะ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ AIS เพราะว่า AIS ดันไปใช้ความถี่ย่าน 900 ซึ่งตรงกับความถี่ของ AT&T ที่เขาล็อคไว้นั้นเอง แฮ่ๆ โชคดีผมใช้ DTAC เป็นหลัก นอกจากนี้เจ้า Atrix 4G ก็ยังสามารถที่จะรองรับ

3G Network (HSDPA)

ที่ย่านความถี่ 850 / 1900 / 2100 ซึ่งๆๆๆ มันรองรับ 3G ของทั้ง TOT (2100) และของ CAT (850) เลยทีเดียว ซี๊ดดดดดดดดดด~~~~ พูดง่ายๆก็คือ ในอนาคตปีนี้หรือปีหน้าถ้าเมืองไทยจะได้มี 3G ใช้กันอย่างจริงๆจังๆสักที มือถือเครื่องนี้ก็สามารถที่จะรองรับการใช้งานได้อย่างดีเลยครับ 😀

ส่วนเครื่องศูนย์ SIS Thailand เห็นว่าคุณต้องเลือกระหว่างว่าจะใช้คลื่น 850 / 2100 หรือ 900 / 2100 นะครับ ว่าแต่ทำไมต้องแยกก็ไม่รู้แหะ ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ข้อมูลตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ ได้ยินผ่านๆมาเท่านั้นเองถ้าผิดพลาดยังไงก็ปล่อยผมไปเถอะ ^^ ต่อมาครับเจ้า ATRIX 4G ตัวนี้ให้หน่วยความจำ

16 GB Internal Storage

มาแบบไม่มีการกั๊ก ให้มาถึง 16 GB เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อหั่นๆ พื้นที่ที่ต้องใช้ลง App ทั่วไปและ System Files ก็จะเหลือให้เราใช้ประมาณ 10 – 11 GB เลยทีเดียว ซึ่งถ้าถามผมว่าพอใช้ไหม หากว่าเราไม่ใส่ Micro SD เพิ่มลงไปก็ต้องบอกว่าพอเกินใช้เลยทีเดียว ยกเว้นว่าคุณชอบที่จะลงเพลงหรือหนัง หรือถ่าย VDO เก็บไว้เยอะๆ อันนี้ก็คงต้องหา Micro SD แบบ Class สูงๆ มาเสริมหน่วยความจำเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆแหละครับ….

คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ากล้องที่มากับ Atrix 4G ตัวนี้มีคุณภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง จัดไปอย่าให้เสียเวลากันเลยครับ

5 Mega Pixels Camera

รูปนี้ผมย่อลงมาหน่อยนะครับ ไม่งั้นมันจะเกินหน้าจอไปหน่อย ดูๆแล้วผมว่าคุณภาพของกล้องที่ถ่ายออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมาก (2592 x 1456) จะเป็น original size นะครับ….  นอกจากนี้เจ้า Atrix 4G ตัวนี้ก็ยังมีกล้องหน้าแบบ VGA ที่สามารถเอาไว้ถ่ายตัวเองได้ด้วย ซึ่งคุณภาพก็ขำๆครับ พอรับได้เช่นกัน ไม่ได้มีรูปมาโชว์ให้ดูเพราะมีแต่รูปตัวเอง……. ส่วนเรื่องรองรับ Video Call นี้ผมไม่แน่ใจแหะ เพราะว่าไม่มีใช้เลย อันนี้ก็ตอบไม่ได้นะ

ฟังชั่นกล้องที่ให้มาก็เป็นเบสิคๆครับ ไม่ได้เริ่ดหรูอะไรเหมือนของ Samsung ที่มีโหมดอะไรเยอะแยะเต็มไปหมดให้เล่น แต่ก็ดีกว่า HTC พอสมควรนะครับ ซูมได้แบบ Digital มีแฟลชที่ค่อนข้างจะสว่างเกิดจริงไปหน่อย ส่วนการโฟกัสก็เป็นแบบออโต้ครับ….. ต่อมาที่จะพูดถึงก็คงจะเป็นความชอบส่วนตัวอีกนั้นแหละ ถ้าใครเคยอ่านรีวิวที่ผมเขียนถึง HTC HD7 ก็คงจะพอจำได้ว่าผมเป็นคนที่ชอบมือถือที่มีจอแสดงผลใหญ่ๆมาก ซึ่งเจ้า Motorola Atrix 4G ก็ตอบโจทย์ส่วนตัวข้อนี้ของผมได้พอสมควรเลยด้วย

4.0 inches display screen

หน้าจอที่มีขนาดถึง 4 นิ้วและมี screen resolution อยู่ที่ ( 960 x 540 ) เทียบเท่าขนาดจอของ iPhone  ส่วนการแสดงผลของจอ Atrix 4G นั้นแสดงได้ค่อนข้างละเอียดคมชัดดีเลยทีเดียว แต่สีอาจจะไม่สดเทียบเท่า Super AMOLED ของ Samsung นะครับ ตรงนี้ก็อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลว่าใครจะชอบแบบหน้าจอแบบไหนบางคนชอบความสดของหน้าจอก็คงจะชอบสไตล์ Samsung แต่ถ้าหากใครชอบแนวคมชัดลึกล้ำก็คงต้องไปซบอก Retina ของ iPhone และถ้าให้ผม rate หน้าจอของ Atrix 4G ผมให้อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ถึงขั้นดีครับ ผมชอบมากกว่า หน้าจอของ LG ด้วยนะ ^o^

ทีนี้ก็มาถึงอีกหนึ่งความชอบและความภูมิใจที่ได้ใช้ Atrix 4G เครื่องนี้นะครับ …… ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมว่า smartphone ยุคนี้ขาดแคลนแบบจริงๆจังๆ เพราะว่าแต่เจ้าที่ผลิต smartphone ออกมาเนี้ยเขามัวแต่ไปสนใจถึงความแรง ความมีประสิทธิภาพ หรืออะไรต่างๆ นาๆ มาแข่งขันกันสุดๆ แต่เหมือนสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ได้หยุดหย่อนไปกว่าเรื่องความแรงหรือฟังชั่นต่างๆนาๆ นี้ก็คือเรื่อง…..

1930 mAh BATTERY

ใช่แล้วก็คือเรื่องแบตเตอรี่นั้นเอง สิ่งสำคัญที่สุดของโลกยุคนี้คือพลังงาน ต่อให้รถคันนึงแรงแค่ไหน ซิ่งได้แค่ไหนถ้าขาดน้ำมัน ก็ประหนึ่งโทรศัพท์ขาดแบตเตอรี่นั้นเองใช้งานไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้บรรดาผู้ใช้ smartphone ต่างๆก็คงพอจะเข้าใจกัน ยกตัวอย่างเช่น iPhone นี้แหละง่ายๆเลย และเห็นภาพที่สุด iPhone เครื่องนึงชาร์ตแบตเต็มแต่เช้าออกจากบ้านมาทำงานหรือไปโรงเรียน ถ้าหากเราใช้งานหนักๆหน่อยเช่น เล่นเกมส์ เล่น twitter ออนเฟสบุค หรือแม้แต่ท่องล่อนเนตเนี้ย ผมวางพนันเลย ไม่เกินครึ่งวัน คุณๆ ท่านๆ เราๆ ทั้งหลายก็คงต้องวิ่งร่อนหาปลัคไฟเพื่อเอาเจ้า iPhone เนี้ยไปชาร์ตเติมพลังกัน บางคนที่ใช้งานหนักจริงๆ วันๆนึงอาจจะต้องชาร์ตแบตถึง 2-3 รอบกันให้เต็มเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าไม่ใช่เหอะ …… ทีนี้เรามาดูแบตเตอรี่ที่แถมติดมาจากกล่องของ Atrix 4G กันดีกว่าว่าจัดมายังไงขนาดไหนจะเพียงพอต่อการใช้งานหรือเปล่า

จากภาพจะเห็นว่าแบตเตอรี่ที่แถมมาด้วยให้ความจุมามากถึง 1880 / 1930 mAh แหนะ โดยตามสเปคที่ทาง Motorola เขาอ้างไว้คือ สามารถใช้งานโทรศัพท์ต่อเนื่องได้  530 นาที ถ้าใช้บนเครือข่าย GSM (2G) ส่วนถ้า 3G ก็ 540 นาที… อืมจริงๆ ตัวเลขที่ทาง Motorola อ้างมามันแปลกๆ นะ ทำไมแบบ 3G ถึงใช้งานได้นานกว่า 2G หว่า แต่ไม่ต้องสนใจมากครับ เพราะสิ่งที่ผมจะบอกก็คือ จากประสบการณ์ที่ผมใช้งานจริงมากว่า 1 เดือน หากออกจากบ้าน 8-9โมงเช้า กลับมาถึงบ้านตอนหัวค่ำ 2-3 ทุ่ม เจ้า Atrix 4G ตัวนี้ยังจะพออยู่รอดได้ครับ โดยส่วนตัวผมค่อนข้างเป็น heavy user สำหรับ Twitter และการใช้งานโปรแกรม MOLOME แชร์รูปภาพออนไลน์ ก็คือมีการต่ออินเตอร์เนตของทุกๆชั่วโมง และมีการใช้งานโทรศัพท์ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงต่อวันครับ

PS: ยิ่ง ณ ตอนนี้ผมเพิ่งจะอัพ ROM ตัวของทาง xda-developers ที่เขาโมไว้ให้ “GingerBlur 4.5” ประสิทธิภาพการใช้งานของแบตเตอรี่นี้ยิ่งถึกขึ้นอีกพอสมควรเลย ถ้าใครใช้งาน Atrix 4G อยู่อยากจะแนะนำให้ลองลงดู แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

และสุดท้ายครับ เพราะเริ่มรู้สึกว่า เนื้อหามันจะเยอะเกินไปหน่อย เดี๋ยวอ่านกันเบื่อพอดี สุดท้ายๆ นี้ก็ฝากอีก 1 ฟังชั่นเท่ห์ๆ คูลๆๆ ของเจ้า Atrix 4G นี้ละกัน เอาไปใช้อวดเพื่อนได้สนุกๆครับ ซึ่งก็คือฟังชั่น

FingerPrint Reader

สแกนลายนิ้วมือนั้นเอง!! เป็นไงล่ะ เท่ไหมละ ฮิฮิๆ เพียงแค่รูดปรืดปร้าว ก็สามารถ unlock หน้าจอได้ จากรูปข้างล่างก็ดูตรงที่นิ้วชี้หนะครับที่เป็นแถบสีดำๆ ตรงนี้ก็เป็นปุ่มเปิดปิดเครื่องด้วยเช่นกัน นอกจากเอาไว้ใช้ปลดล็อคหน้าจอเครื่องแล้ว หากว่าเราต้องการที่จะ Reset to Factory Default เจ้า Atrix 4G ก็ให้เราสแกนนิ้วก่อนเพื่อคอนเฟิร์ม เป็นการรักษาความปลอดภัยอีกแบบนึงที่เท่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว

จริงๆ แล้วเจ้า Atrix 4G เครื่องนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกที่อยากแบ่งปันเล่าสู่ให้ฟังนะครับ โดยเฉพาะพวก Gimmick จุดขายเท่ห์ๆ  ที่มาพร้อมการใช้งานสาย HDMI ที่แถมมาในกล่องด้วย เช่น Webtop, Entertainment Center (ไม่แน่ใจเรียกอย่างงี้หรือเปล่า) นอกจากนี้ก็ยังมี  Phone Portal รวมไปถึงความสามารถด้านการอัพวีดีโอ ที่ให้ความคมชัดถึง 30 fps ……. ซึ่งไว้ผมจะพยายามรีวิวให้ใน [Part.2] ละกันนะครับ ^0^

Conclusion

สรุปสำหรับ [Part.1] นี้นะครับเจ้า Motorola Atrix 4G นี้เป็น Android ที่มีสเปคและฟังชั่นการใช้งานที่ครบครันมากเครื่องนึง

– Dual Core CPU ความเร็วระดับ 1 GHz และรองรับเครือข่าย GSM (2G) / HSDPA (3G)  ของทั้ง TOT และ CAT

– Internal Memory แบบเหลือกินเหลือใช้

– จอใหญ่ขนาด 4 นิ้ว แสดงผลมันสะใจ

– กล้องระดับปานกลาง แต่ก้มีกล้องหน้าแบบ VGA มาให้เล่นขำๆ

– แบตระดับถึก 1930 mAh ใช้งานได้เพียงพอทั้งวัน

– มี Gimmick ให้เล่นอย่างเช่น Bio-metric Finger Scan

มีความแรง มีความสมดุล ในรอบๆด้าน รวมไปถึงความถึกของแบตที่ให้เพียงพอใช้งานไม่ว่าจะเป็น Social Network เช่น Twitter, Facebook หรือการใช้งานท่องเวป ใช้งานโทรศัพท์ไปได้ทั้งวัน

Filed Under: Tech Tagged With: android, at&t, atrix, battery, dual core, motorola, Motorola Atrix 4G

MOLOME™ – a cross-platform photo sharing social network

June 19, 2011 by Chaiyasit Admin Leave a Comment

หายหน้าหายตาไปนานเลยจริงๆ ไม่ได้เข้ามาแตะต้องบล็อคของตัวเองมานานเกือบ 2 เดือนแหนะ เป็นช่วงมรสุมงานเข้าแบบจริงจังรวมทั้งชีวิตส่วนตัวที่รัดตัวหมุนติ้วพอสมควร แต่แล้วในท้ายที่สุดก็อดคันไม้คันมือไม่ได้นะ ต้องมาขอเล่าเรื่องผลงานใหม่ๆ ของเราชาวหัวลำโพง นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนมือถือที่หน้าตาดีที่สุดในประเทศไทยกันหน่อยนะคร้าบ   😀

 

 

 

 

 

เจ้า MOLOME™ หรือที่เราเรียกมันในสำเนียงไทยๆว่า “โม-โล่-มี” นั้นเอง จากบนเวปไซค์ molo.me นั้นเขาเรียกตัวเองว่า A Cross-platform Photo Sharing Social Network ถ้าแปลเป็นไทยก็คงเป็นแอปที่เอาไว้แชร์รูปภาพบนมือถือในทุกๆ Platform นะครับซึ่งสามารถที่จะแชร์รูปภาพที่เราอัพขึ้นผ่าน MOLOME™ นี้ให้เพื่อนๆและคนอื่นเราได้โดยผ่าน Twitter, Facebook และ MOLOME™ photo album website โดยผ่าน ( molo.me/username ) ซึ่งถ้าเป็นของผมก็คือ molo.me/armei

โดย MOLOME™ นี้มีที่มาก็คือ

MO = Mobile

LO = LOMO

ME = Follow Me

นั้นเองครับพร้อมกับคอนเซ็ปง่ายๆของ MOLOME™ คือ Shoot.Share.Badged.Play หรือซึ่งก็คือการ ถ่ายรูป.แบ่งปัน.สะสมเหรียญรางวัล.และที่สำคัญที่สุดคือความสนุกสนาน

VDO

อันนี้ลองมาดูตัววีดีโอ Introduction แนะนำแอปพลิเคชั่นที่ทางทีมงาน MOLOME™ ได้จัดทำไว้ซึ่งล่าสุดได้ออกตัว Official มาแล้วและทำมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว 🙂

Trackback: molo.me/blog

จากวีดีโอตัวนี้ที่ชื่อว่า MOLOME™ – Shoot Share Badged Play เราก็อาจจะสังเกตเห็นตัวนกฮูกที่เป็นตัวเอกทำหน้าที่เป็น Ambassador ของแอปนี้นะครับ โดยเจ้านกฮูกตัวนี้มีชื่อว่า MOLO (โมโล่) และมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเลยทีเดียวซึ่งตรงนี้เราสามารถกดเข้าไปดู MOLO’s Biography ได้ที่เวปไซค์ของทาง MOLOME™ ได้เลยครับ

How to Download

และด้วยความเป็น Cross-platform app developer ของหัวลำโพง ทำให้ตอนนี้ MOLOME สามารถที่จะใช้งานได้บนมือถือ NOKIA และ Android ได้แล้ว แม้ว่าตอนนี้จะยังเป็นเพียงเวอชั่น BETA และยังไม่มี Support ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ ถ้าใครอยากจะทดลองเล่น MOLOME นะครับกดที่รูปภาพตามข้างล่างได้เลย

สำหรับผู้ใช้ Android

สำหรับผู้ใช้ Nokia

และส่วนผู้ใช้มือถือรุ่นอื่นๆ เช่น iPhone, Blackberry, Windows Phone7 หรือ bada คงต้องอดใจรออีกนิดครับ ผมว่าอีกไม่นานด้วยความที่เป็น Cross-Platform ของทางทีมงานหัวลำโพงและความขยันขันแข็งของเจ้าโมโล่ เราคงได้มีสิทธิได้ MOLOME™ มาไว้เล่นอย่างที่ไม่มีพรมแดนหรือแบ่งค่ายมือถือภายในเร็วๆนี้นะครับ 🙂

Filed Under: Tech Tagged With: cross-platform, hlp, HLPTH, MOLO, MOLOME, photo, photo-sharing, share, sharing

รีวิว และ Goodbye HTC HD7 : Windows Phone 7

May 2, 2011 by Chaiyasit Admin 3 Comments

และแล้วก็ถึงคราวที่ต้องจากลา …. ณ นาทีนี้ ภาพหลายๆภาพ เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอะเจอก็ได้ Flashback กลับเข้ามา…..

…

 

 

 

 

นับจากวันแรกวันนั้นก็เมื่อวันเปิดตัว HTC HD7 ที่ตึก Dtac ยังจำได้เลยว่าตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่ไม่ใช่แค่ว่าได้มือถือตัวใหม่ แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือการที่จะได้ลิ้มลองระบบปฏิบัติการใหม่ที่มีชื่อว่า Windows Phone 7 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสจับมาแล้วบ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้มีโอกาสเอามาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ว่าจะใช้งานได้ดีแค่ไหน …. ฟังดูแล้วนิสัยเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่เลยเนอะ จริงๆ ก็ประมาณนั้นนั้นแหละ

อย่างไรก็ดี ณ วันนี้ผมก็ได้ขายเจ้า HTC HD7 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สดๆร้อนๆ กันเลยทีเดียว ส่วนเหตุที่ผมขาย HTC HD7 ไปนั้นคงไม่ได้หมายความว่าเจ้า Windows Phone 7 หรือ เจ้ามือถือ HTC HD7 มันแย่มากจนต้องขายทิ้ง ซึ่งตรงนี้ผมก็บอกตรงๆ เลยว่าหลังจากที่ผมได้มีโอกาสได้ใช้มันมานี้ 4-5 เดือนก็ถือว่าโดยมือถือ HTC HD7 เป็นมือถือที่ผมชอบในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสเป็คเครื่องๆ ขนาดหน้าจอ หรือที่ชอบมากก็คงจะเป็น Gimmick ที่เป็นขาตั้งเครื่องโทรศัพท์แบบพร้อมที่จะนอนดู Youtube หรือดูหนังได้แบบสบายๆบนเตียงหรือบนโต๊ะแบบชิลชิล…

ส่วนด้านตัว Windows Phone 7 ก็มีข้อดีในหลายๆข้อเช่น Live Tiles, People Hub, User Interface แบบใหม่ที่ใช้งานง่ายเข้าถึงการเปิดโปรแกรมได้รวดเร็ว, ความสามารถในการรับอีเมล์ที่รวดเร็วซึ่งหลักๆผมใช้ Gmail และที่สำคัญ Hotmail รับได้เร็วมากๆ เร็วกว่าบีบีอีก รวมไปถึง Web Browser (IE) ที่สามารถโหลดหน้าเวปได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไม่มีการหน่วงเลย แม้ว่าจะต้องเปิดเวปในหน้าที่มี Content เยอะๆ

Limitations

แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันดีทุกคนนะครับว่า ไม่มีสิ่งไหนในโลกนี้หรอกที่มันสมบูรณ์แบบ “No such thing in this world that is perfect” ภายในสิ่งดีดีๆที่มี มันก็มีสิ่งที่ไม่เวิร์คบ้างเช่นเดียวกัน ส่วนข้อเสียหรือข้อด้อยที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้มันก็ไม่ใช่ The end of the world นะครับ มันก็เป็นแค่ความเห็นของผู้ใช้ตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้นเอง บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับผมก็ตามนั้นครับ เพราะอย่างไรก็ดีสุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะหันมาสนใจใช้ Windows Phone 7 หรือว่าถ้าใช้อยู่แล้วจะใช้ต่อ หรือแม้ว่าจะขายทิ้งออกไปอย่างเช่นผมก็คือตัวคุณเองนั้นแหละ จริงไหม 😛

WP7 Dialer – thank to ITSCJ.com

1) Smart Dialer

ก็เริ่มพูดถึงข้อด้อยเลยดีกว่าอย่างแรกเลยเนี้ยก็คือ มันยังไม่มี “Smart Dialer” หรือการเดา Contact เวลาเรากดเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งด้วยการที่ผมมีจำนวนรายชื่อเพื่อนกว่า 600 คนใน Contacts อันนี้ยังไม่รวมรายชื่อที่ถูก integrate หรือรวมเข้ามาทาง Facebook นะทำให้เวลาไถเบอร์โทรศัพท์ทีนี้ ไถๆรูดๆกันไปเลยกว่าจะเจอแม้ว่ามันจะมีสารบัญมาให้นะ ซึ่งจริงๆ มันอาจจะมี Application เสริมให้โหลดแล้วก็ได้ แต่ผมยังหาไม่เจอที่เป็นแบบ Free นะครับ

2) Marketplace

ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่อง Application แล้วก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงเรื่องการที่เราคนไทยยังไม่สามารถที่จะซื้อ Application  ผ่าน Marketplace ได้เพราะว่าทาง  Microsoft ยังไม่ Support เมืองไทยนั้นเอง ทำให้เราสามารถที่จะลงได้เฉพาะ Free App เท่านั้นเอง T_T ฟังดูน่าเศร้าและนี้คงยังไม่ต้องพูดถึงจำนวน Application ทั้งหมดที่มีว่าน้อยขนาดไหน

3) Thai Keyboard

เรื่อง Keyboard ภาษาไทยเลยตัวสำคัญที่แม้ว่า ณ วันนี้ ต้องขอบคุณทาง xdadeveloper ที่เขาสามารถทำการแฮคเจ้า Windows Phone7 ให้สามารถลงคีร์บอร์ดภาษาไทยได้แล้ว เพียงแต่ว่า Layout การพิมพ์ที่ยากลำบากในการใส่สระ วรรณยุกต์ต่างๆ นั้นทำให้ผมมีวันและเวลาที่ยากลำบากในการพิมพ์ภาษาไทยมากๆ ซึ่งผมเดาว่าคนอื่นๆ ก็คงคิดไม่ต่างกัน (เนอะ)

4) Twitter Client

ขาดโปรแกรม Twitter Client ที่มีประสิทธิภาพ โดนส่วนตัวผมเป็นคนที่ใช้งาน Twitter  แทบจะตลอดเวลาและผมได้ลองใช้ Free Twitter Client หลายๆตัวเลยไม่ว่าจะเป็น Beez, Seesmics, MoTweet แล้วตัวที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็น MoTweets ที่ใช้แล้วมันตอบสนองในการโหลด Timeline ที่ค่อนข้างเร็ว ต่างจาก App ตัวอื่นๆ ที่ขอบอกว่าช้ามากๆ และก็มีปัญหาในการโหลด Timeline ด้วยที่บางทีก็โหลดไม่ขึ้น แต่อย่างไรก็ดีตัว MoTweet  ก็มีข้อเสียตรงที่มีส่วนของโฆษณาที่กินพื้นที่ App ไปเยอะมาก รวมไปถึง Bugs ต่างๆ ที่ยังมีพอมากพอสมควร

5) PDF Support

ด้วยที่ Windows Phone 7 โดยตัวของมันเองยังไม่สามารถอ่านไฟล์ PDF ได้และยังต้องพึ่ง 3rd Party Application ของ Adobe ในการเปิดอ่านซึ่งยังคงมีปัญหาในการเปิดไฟล์ PDF ที่มีขนาดกลาง – ใหญ่ ซึ่งจะเปิดได้ช้ามาก พร้อมทั้งเวลา Navigate ข้อมูลใน PDF ก็จะมีอาการหน่วงๆ ค้างๆ เกิดขึ้นเป็นจังหวะในการเปลี่ยนหน้าแทบจะตลอดเวลา ซึ่งผมมองว่ามันไม่ค่อยที่จะ Practical ในการใช้เท่าไหร่ในปัจจุบันที่มีการใช้งาน PDF ค่อนข้างเยอะในการส่งเอกสาร

6) Hotmail?

สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้อีเมล์ Hotmail เป็นหลักจะค่อนข้างมีปัญหาในการจัดการข้อมูลส่วนตัวเช่น Contact, หรือ Calendar พอสมควร เพราะโดยส่วนตัวของผมเน้นใช้บริการของ GMAIL ตรงที่เจ้า Windows Phone7 จะทำการ Sync ทั้ง Contact (รวมไปถึงข้อมูลของ Windows Live Messenger ทุกคน) และ Calender เข้ามาโดยที่คุณไม่สามารถไปปลดออกได้ เหมือนโดนบีบบังคับให้ต้องใช้ แม้ว่าคุณจะไม่อยากใช้ก็ตาม แล้วปัญหาที่ตามมาก็จะเกิดข้อมูลรกมากเยอะแยะไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องการ

สำหรับข้อนี้หากนึกไม่ออก ลองนึกภาพว่าใน MSN ลิสของเรามีใครอยู่บ้าง ซึ่งเราๆท่านๆก็จะทราบว่า ณ ตอนนี้ MSN เต็มไปด้วย SPAMS ส่งรีเควสเข้ามาขอเป็นเพื่อนเราทุกๆวันๆ และทุกๆชื่อ Contact ใน MSN จะวิ่งเข้ามาอยู่ใน Contact ภายใต้ People Hub ของคุณรวมถึงพวก SPAMS พวกนั้นด้วย

จริงๆข้อเสียตรงนี้ก็มีทางแก้ครับ ก็ต้องพลิกแพลงหลายตลบในการสร้าง Account หลอกขึ้นมานิดหน่อย แต่ผมก็มองว่าถึงผมจะแก้ไขได้ แต่ทำไมผมจะต้องมาแก้ไขอย่างนี้ด้วย ทำไมต้องบังคับในการ sync ข้อมูลที่ผมไม่ต้องการ (โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบการถูกบังคับเท่าไหร่)

เอ่ะ เขียนไปเขียนมาทำไมดูข้อด้อยข้อเสียมันเริ่มเยอะและเหมือนว่าผมยังจะเขียนต่อไปได้อีกเรื่อยๆ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเท่านี้ก็พอครับ มุมมองที่ผมเขียน ณ ตอนนี้คือเป็นมุมมองในเชิงของผู้ใช้ หรือ User ธรรมดาทั่วไปนะครับ ซึ่งหากว่าจะให้ผมเขียนเพิ่มในมุมมองของนักพัฒนา Application หรือ Developer ด้วยนี้ Post นี้ที่ผมจะเขียนคงยาวเวิ่นเว้อเลยทีเดียว

Conclusion

ก็จะสรุปนะครับอย่างที่ผมบอกไปว่าในทุกๆสิ่งนะครับไม่มีสิ่งไหนที่มันดีเลิศ Perfect มันก็จะมีจุดข้อด้อยข้อเสียคลุกเคล้ากันไป เพียงแต่ว่าถ้าให้ผมวิเคราะห์ข้อด้อยข้อเสียต่างๆเหล่านี้ บางทีมันก็เกิดจากการที่ Microsoft ไม่มีทางเลือกมากนัก ด้วยการที่ Apple & Google ได้กระโดดลงมาร่วมทำการแข่งขันในตลาด Smartphone อย่างดุเดือดและได้ก้าวผ่านข้าม Microsoft ไปแล้วหลายขุม ทำให้ Microsoft ต้องเข็น Windows Phone7 ที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ออกมาลงสู่ตลาด และอาจจะเป็นด้วยที่การเป็นบริษัทใหญ่จะก้าวจะทำอะไรทีก็อาจจะเชื่องช้าหรือว่าอาจจะมี Ego อยู่ในตัวเองสูงว่า กูคือ Microsoft นะ กูคือยักษ์ใหญ่ ใครๆ ก็ต้องใช้ของกู ทำให้เจ้าตัว Windows Phone7 ที่ออกมา ณ ปัจจุบันในมุมมองของผมนั้นมองว่ามันเป็นยังเป็น OS ที่น่าตื่นเต้นในแค่ช่วงแรกๆที่ได้เริ่มใช้ แต่เมื่อได้ใช้ไปสักพัก ด้วยการที่ตัวระบบเองค่อนข้างที่จะปิดและที่ Limitations ต่างๆอยู่พอสมควร อย่างไรก็ดีในช่วงระยะเวลาที่ผมใช้ทางไมโครซอฟก็ได้มีการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ถึง 2 ครั้ง ซึ่ง 1 ใน 2 ครั้งนั้นก็มีการเสริมความสามารถในการ Copy / Paste และความสามารถในการเปิด Application ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นอีกจุดเสียจุดหนึ่งของ Windows Phone 7 ในเฟิร์มแวร์ตัวเดิมตัวแรกที่กว่าจะเปิด Application ได้สักตัวเนี้ยมันกินเวลาหลายวินาทีในการโหลดพอสมควร ซึ่งทำให้เกิดอาการค้างๆขัดใจได้เล็กน้อยถึงปานกลาง… (อ้าวนั้นแอบบ่นอีกแล้ว :p)

iOS Android WP7 ….

 

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี ผมก็มองว่าไมโครซอฟก็คงทราบดีขึ้นข้อเสียข้อด้อยของตัวเอง และพยายามที่จะปรับเปลี่ยนจูนเครื่องใหม่ให้มันดียิ่งๆขึ้นๆ และโดยส่วนตัวของผมนั้น ผมก็มองว่าแม้ว่าในตอนเริ่มต้นมันยังเป็นระบบที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่เมื่อยักษ์ตื่นแล้ว แต่ละก้าวที่ยักษ์จะเดินนั้นก็น่าสนใจและน่าศึกษายิ่งนัก โดยเฉพาะก้าวสำคัญที่ Microsoft ได้ไปจับมือกับยักษ์ตัวใหญ่อีกตัวหนึ่งซึ่งก็คือ Nokia ที่เขายอมสละทิ้งระบบ Symbian ของตัวเองทิ้งและหันมาจับมือเป็นพันธมิตรหลักและพร้อมเลือกใช้ Windows Phone7 เป็นระบบหลักที่จะใช้ในมือถือ Smartphone ของ Nokia ในอนาคต ซึ่งแน่นอนเราก็คงตอบไม่ได้ว่าอนาคตของยักษ์ 2 ตัวที่ถูก Apple & Google ก้าวข้ามผ่านไปได้นั้นเมื่อจับมือกันแล้วจะเป็นอย่างไร ดีลการจับมือร่วมกันนี้ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่ทักท้วง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าอนาคตนั้นเป็นเช่นไร แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งละที่แม้ว่าตอนนี้ผมอาจจะขอลาจากกับเจ้า Windows Phone7 นี้ไปก่อน แต่ในอนาคตสิ้นปี 2011 นี้หรือปีหน้า เมื่อ Nokia ได้ออกมือถือที่ใช้ระบบ Windows Phone7 แล้วผมก็จะเป็นคนหนึ่งในกลุ่มคนแรกๆ ที่พร้อมที่จะเข้ามาลิ้มลองและช่วยดูว่าอนาคตของตลาด Smartphone เนี้ยจะยังมีชื่อ Nokia หรือ Microsoft อยุ่หรือไม่ ………..

 

 

 

 

 

and Hopefully… WE’RE ONLY PART to meet again with NOKIA 😉

Filed Under: Tech Tagged With: Future, Goodbye, HTC HD7, Limitation, Microsoft, Nokia, Windows Phone 7, WP7, ข้อด้อย, ข้อเสีย

Happiness Is Rooted Inside Of You, seriously.

March 29, 2011 by Chaiyasit Admin 6 Comments

“ความสุข“ เนี้ยจริงๆ มันอยู่รอบๆตัวเรานั้นแหละ มันอยู่ทุกหนทุกแห่ง ขอยืมคำพูดของท่าน ว. วชิรเมธี มาหน่อย แต่ถ้าถามเรานะ เราจะบอกว่า “ความสุข” มันมีอยู่ทั่วไปเช่นกัน เพียงแต่ว่าการที่แต่ละคนมีความสุขมากมีความสุขน้อยเนี้ย มันอยู่ที่แต่ละคนนั้นมีความสามารถจะไขว่คว้าความสุขต่างๆ ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ และรับรู้ความสุขนั้นได้ขนาดไหน ซึ่งการที่เราจะไขว่คว้าและรับรู้ความสุขนั้นมันก็อยู่ที่ตัวเราเองนั้นแหละว่าเรามีมุมมองในสิ่งต่างๆนั้นเป็นเช่นไร

“มุมมอง” เนี้ยสำคัญมากในการที่จะไขว่คว้าและรับรู้ความสุขต่างๆ ซึ่งมุมมองหนะเป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้ บังคับกันไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่แต่ละคนมีมาไม่เหมือนกัน ต้องฝึกเองคิดเองปรับเอง

คนที่มองโลกในแง่ดีเวลาอยู่ด้วยคุยด้วย เขาก็จะมีพลัง มี Charisma ที่แผ่กระจายออกมา พร้อมกับเรื่องราวต่างๆ ที่ได้รับฟังแล้ว เราก็จะมีความสุขไปด้วยเหมือนกับเชื้อไวรัสแห่งความสุขก็จะกระจายแผ่กันออกมา ติดกันไปเป็นทอดๆ ถ้าอยากเห็นภาพก็ลองนึกภาพของเด็กตัวเล็กๆๆ น่ารักๆๆ ลองมองเค้าเวลาเขานอน เขานอนยิ้ม มีความสุข หลับสบาย นอนน้ำลายเยิ้มนิดๆ กอดหมอนตุ๊กตา Stitch โดเรมอน อะไรก็ว่าไป ……………. คุณจะแอบ เผลอยิ้ม ออกมาอย่างไม่รู้ตัว 😉

 

HAPPINESSSSSS~

ล่าสุดเนี้ยเราเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนึงจบไป จำชื่อคนเขียนไม่ได้ เพียงแต่ว่าเขาเป็นนักจิตแพทย์ชื่อดังในญี่ปุ่น อ่านแล้วรู้สึกชอบมากเลยในบทสุดท้ายที่เขาพูดถึง “วิธีการพูดที่ทำให้มี ‘ความสุข‘ ” ซึ่งรายละเอียดคงจะไม่ไปพูดถึงละนะ แต่ว่าที่ชอบเนี้ยชอบในตอนจบที่เขายกคำพูดของนักปราชญ์ชาวรัสเซียชื่อ Dostoyevsky ขึ้นมาว่า

“เพราะมนุษย์… ไม่รู้ว่าตัวเองมีความสุข
มนุษย์จึงไม่มีความสุข…“

เราชอบนะ และค่อนข้างเห็นด้วยเลยทีเดียวว่า จริงๆแล้วความสุขหนะ นอกจากมันจะอยู่รอบๆตัวเราแล้ว มันยังถูกฝังลึกอยู่ในตัวเราทุกๆคนเช่นกัน และความสุขที่อยู่ในตัวเรานั้น มีมากมายเหลือเกิน และรอคอยวันที่จะได้รับการรับรู้จากเจ้าของของมัน เอาจริงๆนะ ไม่ว่าใครก็ตาม ก็มีความสุขได้ และมีความสุขได้มากกว่าที่ตัวเองมีอยู่ด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าคุณพร้อมแล้วหรือยัง …..

แต่เราเชื่อนะ ว่าคุณทำได้ 😉

We Can Do It 😉

แล้วคุณละ เชื่อในตัวคุณเองไหม?



Filed Under: Myself Tagged With: happiness, ความสุข, มุมมอง

  • « Go to Previous Page
  • Go to page 1
  • Interim pages omitted …
  • Go to page 3
  • Go to page 4
  • Go to page 5
  • Go to page 6
  • Go to Next Page »

Primary Sidebar

LIVE ONCE

Search

Recent Posts

  • คุ้มไหม? กับสิทธิประโยชน์บัตร American Express Platinum ปี 2018 กับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท
  • Wat Mahathat Worawihan in 10 Photos (Ratchaburi)
  • มากิน Haidilao Steamboat สุกี้สัญชาติจีน การบริการหลุดโลก 313@Somerset
  • X2 River Kwai Kanchanaburi In The Morning Photo Gallery
  • ประเดิม 10 km แรกกับ Nike Zoom Fly เปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19

Copyright © 2023 · Metro Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in