• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

LIVE ONCE

Only Live Once, Smart Life, Spend Wisely - dogs, travel, tech, running and freedom

  • Travel
  • LifeStyle
  • Sport
  • Book
  • Tech
You are here: Home / Home

Marrakesh Huahin Resort & SPA รีสอร์ตใหม่ แปลกดี น่าลอง

March 12, 2012 by Chaiyasit Admin 1 Comment

<

ควันหลงทิ้งช่วงไปเกือบเดือน เพิ่งจะได้มีโอกาสมาเขียนบันทึกความประทับใจกับรีสอร์ตใหม่ (เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อพฤศจิกายน 2554)

.

 Marrakesh Hua Hin Resort & SPA : Journey Of Mystic Hideaway 

<

<

เนื่องด้วยจากงานไทยเที่ยวไทยปีที่แล้ว ได้ไปสอย Voucher รีสอร์ตนี้มาแบบ 3 วัน 2 คืน ซื้อมาแบบงงๆ ประมาณรู้แค่ว่าเป็นรีสอร์ตใหม่ ยังสร้างไม่เสร็จ แล้วมีอ่าง Jacuzzi ให้ก็เลยจัดไปแบบเบลอๆ สุดท้ายก็นัดแนะกับเพื่อนเรียบร้อย ล้อหมุนไปเจอะเจอกันที่ Marrakesh Huahin

รอบนี้ตั้งใจมาที่ Marrakesh เร็วเป็นพิเศษก็ตั้งแต่ 11 โมงเช้าได้ โดยแอบหวังเล็กๆว่าจะได้ใช้ Facility ให้คุ้มหน่อยเพราะห้องพักราคาก็ไม่ได้ถูก เรทราคานี้ก็เหยียบครึ่งหมื่นต่อคืนได้เลย ก่อนเข้ามาที่ Marrakesh เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวก็มีโทรมาถามที่รีสอร์ตก่อนว่าห้องที่จองไว้พร้อมที่ยังโดยได้คำตอบว่า “ให้ลองเข้ามาดูก่อน” เจอแบบนี้มึนๆเล็กน้อยแต่ก็ไม่ขัดศรัทธาครับ ตรงบึ่งเข้าไปเลย =)

ตัวรีสอร์ตเองจะอยู่บนติดถนนใหญ่เพชรเกษม จะอยู่ฝั่งเดียวกับ Marriott และอยู่เลย Intercontinental มาเล็กน้อยแล้วอยู่ทางด้านซ้ายครับ ต้องบอกก่อนว่าตัว Marrakesh รีสอร์ตนี้จะอยู่บริเวณเดียวกับ Marrakesh Residences (คอนโด) นั้นเองโดยจะมีแยกโซนไม่ให้แขกทางฝั่งโรงแรมไปยุ่งกับทางฝั่ง Residences โดยเมื่อเลี้ยวรถตามป้าย Marrakesh เข้ามาความรู้สึกแรกเลยก็คือ ความรู้สึกอึดอัด เล็กน้อยรู้สึกว่าตึกด้านขวาที่เป็นส่วนของ Residences มันบีบแล้วปิดพื้นที่ไปเยอะเหลือทางเดินรถประมาณ 1 เลนท์ครึ่งให้ตรงเข้าไปโซนโรงแรมโดยด้านซ้ายจะเป็นที่จอดรถแบบจอดเข้าซองได้ซองละ 1 คันเรียงยาวประมาณ 100 เมตรก็จะเข้าไปถึงโซนโรงแรม

<

<

อันนี้เป็นรูปทางเข้าไปโซน Residences รวมไปถึงที่จอดรถในตึก เราเป็นแขกโรงแรมต้องจอดด้านนอกไป แต่ก็ไม่เป็นไรเราไปถึงแต่เช้ารถที่จอดก็ยังไม่เยอะมาก ก็ทำการลงกระเป๋าแล้วเดินเข้ามาที่ Lobby ด้านใน ค่อนข้างจะโอ่โถงเลยทีเดียว เป็นลักษณะเพดานสูงให้ความรู้สึกสไตล์ยุโรปตะวันออกโมรอคโกอะไรประมาณนั้นสุดๆ

<

Lobby

 

ระหว่างนั่งรอเจ้าหน้าที่เขาเช็คอินห้องให้ เราก็มันนั่งชิวรอพร้อมรับ Complimentary Welcome Drink มาคนละแก้ว

จำไม่ได้ว่าเป็นน้ำอะไร แต่ก็เย็นชื่นใจดีครับ ก็นั่งรอไปมองวิวไปสักพักนึง ทาง Lobby ก็แจ้งว่ามีห้องที่จองไว้กำลังทำความสะอาดอยู่ใกล้จะเสร็จแล้ว ให้รอสักครู่

 

เราก็สบายๆ มาถึงตั้งแต่ก่อนเที่ยงแหนะ มาเร็วแบบนี้รอนิดหน่อยก็โชคดีแล้ว แล้วสักพักก็มีเจ้าหน้าที่พาเราเข้าไปที่ห้อง

ห้องที่เราจองไว้เป็น Jacuzzi Suite  ชื่อฟังดูเท่ห์หรูหราดี แต่อยากจะบอกว่าเป็นห้องที่ราคาถูกที่สุดแล้ว เหอๆ

<

<

<

<

ถ้าเป็นห้องที่ระดับสูงกว่านี้ก็จะเป็นห้องแบบ Fountain Pool Suite, Ocean Front Suite และ Celestial Suite

แต่ละห้องชื่อฟังดูไฮโซมาก เราตังไม่ค่อยมีก็อยู่แค่ Jacuzzi Suite ก็พอ ^o^

มาดูกันดีกว่าว่า Jacuzzi Suite ที่ Marrakesh Resort & SPA นี้หน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

<

Jacuzzi Suite – Marrakesh

เปิดประตูเข้ามา จะพบว่าห้องจะมีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ

 

 

ส่วนแรกก็จะเป็นห้องน้ำห้องแต่งตัวแล้วก็จะเป็นส่วน In-Room Bar ซึ่งก็คือด้านขวาและซ้ายมือของรูปเลย

ส่วนที่สองก็จะเป็นส่วนห้องนอนครับ และส่วนสุดท้ายก็จะเป็นส่วนระเบียงที่มีไฮไลท์ของห้องนี้อยู่ก็คือ อ่าง Jacuzzi แบบ Outdoor 😀

 

 

 

 

 

 

 

.

<

In-Room Bar

.

ฬฬ

No Rain Shower

โดยส่วนตัวเป็นคนที่เวลาไปพักที่ไหนก็จะชอบไปสำรวจห้องน้ำก่อน แอบโรคจิตเล็กน้อย พอมาที่ Marrakesh ก็แอบ FAIL พอสมควร เมื่อพบว่าห้องน้ำค่อนข้างเล็กมาก แถมห้องอาบน้ำกับห้องส้วมก็แยกกัน ต้องเดินผ่านกลางห้องก่อนถึงจะเข้าได้ ตัว Shower เองก็เป็นฝักบัว Shower ธรรมดานะ ไม่ใช่ Rain Shower ที่กำลังฮิตอีกต่างหาก

.<

 

 

 

 

 

 

.

 

ทีนี้ก็มาดูต่อว่าโซนห้องนอนจะเป็นอย่างไรบ้าง

ห้องที่เราได้พักเป็นห้องแบบ Single Bed นะครับเตียงใหญ่มากขอบอก นุ่มมากด้วย ขอเรียกว่ามันคือ “เตียงดูดวิญญาน” เพราะเมื่อเอนตัวนอนลงไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเราถูกดูดลงไป ถ้าไม่ได้คนอื่นช่วยดึงขึ้นมาก็คงลุกได้ยาก 😛

.

 .<

ส่วนด้านขวาก็จะเป็นส่วน 2nd Bed ครับที่เอาไปเอนพิงนอนชิวๆ อ่านหนังสือหรือดูทีวีอะไรก็ว่าไป

.

 .

และส่วนปลายหมอนของ 2nd Bed นั้นก็จะมีช่องต่างๆ ที่เอาต่ออุปกรณ์เสริมเพื่อเชื่อมต่อกับทีวีในห้อง พอดีไม่รู้ว่ามันมีช่องเสียบพวกนี้ให้ เราเลยไม่ได้เตรียมอะไรมาทดลองเลย เสียดายๆ เพราะดูแล้วมีช่องให้เสียบทั้งสาย USB, VGA, สายจอทั่วไป รวมไปถึงสาย S-Video อีกต่างหาก

.

 

 

 

 

 

 

.

<

My Love Jucuzzi

ออกมาที่ตรง Balcony ไฮไลท์ของห้องนี้เลยครับ อ่างจากุซซี่ นี้ก็สมราคาคุย อ่างกว้างขวางพอสมควร พอที่จะลงไปได้สองคน ส่วนแรงดันน้ำก็แรงดี ลงไปแช่แล้วสบายตัวเบาเลยทีเดียวแล้วก็ไม่ต้องกลัวโป๊เพราะว่าที่ระเบียงทาง Marrakesh เขามีม่านไฟฟ้าให้เอาไว้ปิดเวลาเราจะแช่น้ำ หรือว่าเอาไว้ปิดกันแดดก็แล้วแต่ ชิวว์มากจริงๆขอบอกว่าชิวว์ แชร์น้ำไป ปล่อยให้กระแสน้ำนวดหลังนวดคอเราไป อ่านหนังสือสักเล่มไป เปิดเพลงเบาๆชิวๆ ไป เสียดายตอนที่ลงไปแชร์ไม่ได้หยิบเบียร์มาสักกระป๋องหรือไวน์สักแก้วลงไปด้วย แล้วก็ยังเสียดายอีกรอบที่ทาง Marrakesh ไม่ได้มีโฟมบาร์ทหรือทรายขัดตัวให้ด้วยก็เลยได้แช่อย่างเดียวไม่งั้นคงจะฟินกว่านี้

.

 .

อีกมุมหนึ่งของส่วน Balcony มีเบาะชิวๆพอนั่งสองคนอ่านหนังสือ จิบกาแฟไปก็แล้วแต่

.

 

 

 

 

 

 

.

 

<

 .

วิวห้องจากระเบียงมองออกไปแอบเห็นทะเลเล็กน้อยครับ วิวส่วนใหญ่จะเป็นโซน Residences ทั้งสิ้น รวมไปถึงสระว่ายน้ำแบบยาวววววววมากกกก น่าว่ายสุดๆ แต่เขาก็ไม่อนุญาติให้แขกโรงแรมไปใช้บริการนะครับ เขาสงวนไว้สำหรับแขก Residences เท่านั้น ให้ความรู้สึกเราเป็นลูกเมียน้อยอะไรอย่างนั้นจริงๆ

.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

.

Breakfast

ส่วนนี้รูปสุดท้ายเป็นรูปอาหารเช้า หลักๆก็จะมีโซนขนมปัง โซนสลัด โซนไข่ และเป็นโซนบุฟเฟ่ที่มีแฮม เบคอน ไส้กรอก ข้าวต้ม ติ๋มซำเล็กน้อย

เสียดายที่ไม่ได้ลองอาหารเย็นของ Marrakesh พอดีต้องแบ่ง Voucher ใบนึงให้เพื่อนฉุยและครอบครัวไป เลยอดได้ลิ้มลองเลย

 .

In Conclusion

สรุปทริปนี้ไปเยือน Marrakesh ก็ต้องไปเลยว่าเป็นรีสอร์ตที่น่าไปพักในระดับนึงเลยทีเดียว มีจุดขายด้านการตกแต่ง มีอ่าง Jacuzzi ทุกห้อง มีเตียงดูดวิญญานที่ชอบมาก อาหารเช้าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว มีอาหารหลายหลากให้เลือก

เพียงแต่ว่าข้อเสียที่ได้พบมาก็คือ รู้สึกว่าการบริการของที่ Marrakesh นี้ยังไม่สุด ด้วยราคาห้องระดับนี้แต่กลับไม่มีแก้วไวน์ให้ ไม่มีรองเท้าแตะ ไม่มี Rain Shower ไม่มีทรายขัดผิวหรือ Bath Foam ให้กับ Jacuzzi จริงๆพวกนี้มันเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่โรงแรมหรือรีสอร์ตอื่นในระดับใกล้เคียงกันเขามีให้ พอมาที่ Marrakesh แล้วไม่มีเหมือนกันมันก็เลยแอบรู้สึก FAIL รวมไปถึงที่จอดรถที่น้อยมากและดูแออัด ยิ่งหากมีรถบัสคันใหญ่เข้ามาอยู่ในบริเวณโรงแรมด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดเข้าไปอีก รวมไปถึงห้องฟิตเนสที่เล็กมาก ไม่มีเครื่องอุปกรณ์อะไรให้เล่นเท่าไหร่ มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีห้องฟิตเนสไว้เพียงเพื่อให้รู้ว่ามี ไม่ได้กะให้แขกได้มากใช้บริการเท่าไหร่

เอ่ะ ทำไมรู้สึกว่าข้อดีก็มี แต่ข้อเสียมันเยอะจังแหะ เอาเป็นว่าโดยส่วนตัวแล้ว  Marrakesh เป็นรีสอร์ตนึงที่ถ้าหากว่าไม่เคยมาเนี้ย ก็น่าจะมาลองพักผ่อนดูสักครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นรีสอร์ตใหม่ มีสไตล์ที่แตกต่าง เพียงแต่ถ้าถามว่าเราจะกลับไปพักที่ Marrakesh อีกไหมก็ขอบอกว่าคงจะไม่ เพราะว่าด้วยราคาห้องพักระดับนี้ เรามีความรู้สึกว่าเราสามารถได้บริการและสิ่งที่ดีกว่าได้จากที่อื่น

 

 

Filed Under: Travel Tagged With: Huahin, Jacuzzi, Marrakesh, Morocco, ชิว, หัวหิน

Apple To Rule The World ก้าวสำคัญของ Apple ที่จะครองโลกด้วย iBooks 2

January 24, 2012 by Chaiyasit Admin Leave a Comment

.

.

เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2012 ที่ Apple ได้กระโดดเข้ามาร่วมวงในตลาด e-textbooks (ตำราเรียน) โดยจับมือกับ 3 ค่ายหนังสือเรียนยักษ์ใหญ่จาก

1) Pearson PLC
2) McGlaw-Hill Cos Inc
3) Houghton Mifflin Harcourt

ซึ่งแค่ 3 สำนักพิมพ์นี้ก็ยึดตลาด Textbooks ในอเมริกาไปกว่า 90% แล้ว!!!

และการเข้าแจมตลาด e-book นี้ Apple มี Strategy โดยเน้นไปที่ textbooks เราจะเรียกว่า e-textbooks นะครับเพราะว่ารูปแบบการลุยตลาดจะเป็นอยู่บน  iPad นั้นเอง โดย Apple จะสร้าง Platform ขึ้นมารองรับโดยผ่าน iBooks 2 App ที่สามารถดาวโหลดได้ฟรีผ่าน Apple Store

การใช้งาน iBooks 2 นี้ก็ใช้ง่ายมาก เพียงกดเข้า App แล้วเลือกซื้อหนังสือหลังจากกดซื้อแล้ว เจ้าหนังสือนี้ก็จะถูกส่งผ่านแบบ OTA (Over the air) เข้ามาที่ iPad ของเราและพร้อมใช้งานได้โดยทันที

เบื้องต้นตลาด e-textbooks นี้นักวิเคราะห์ทั้งหลายประเมินว่ามีมูลค่าตลาดทั้งสิ้นอยู่ที่ 8,000 ล้านเหรียญ (USD) หรือราวๆ 24,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง

แล้วจากข่าวนี้อะไรละที่ทำให้ผมคิดหรือตื่นตระหนกไปเองว่า Apple กำลังเดินก้าวต่อไปที่สำคัญในการจะครองโลกอย่างแยบยล…

.

ปัจจุบันตอนนี้ iPhone ก็คือ Smartphone เครื่องๆหนึ่งที่คนซื้อเพราะว่ามันใช้งานง่าย, มันมี Design, มันเป็น Lifestyle, มันเป็นสิ่งประจำวัน รวมไปถึงคนซื้อเพราะชอบและหลงในศาสดา Steve Jobs และมนต์ขลังของ Apple แต่…. คนไม่ได้ซื้อเพราะว่ามันเป็นสิ่งจำเป็น

ตรงนี้และจุดนี้ทำให้ Steve Jobs เมื่อปีก่อนมองเห็นว่า ทำไมเราไม่ทำให้ iPad มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเสียล่ะ แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนทั่วไป ควรจะเริ่มต้นจากจุดไหนดี….

และจากบทสัมพาษท์ของ Philip Schiller (Senior Vice President ของ Apple) เขามองว่า

.

“ปัจจุบันระบบการศึกษาอยู่ในยุคมืด และหนังสือและตำราเรียนมันทั้งใหญ่และหนักและเป็นอุปสรรคหนึ่งในการเรียนรู้”

.

และแน่นอนว่าการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็น ตรงนี้มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ล้ำลึกมาก เป็นกลยุทธ์ที่บุกตลาดรากหญ้าแบบจริงจัง และเมื่อมองจากจำนวนนักเรียนในระบบของอเมริกาที่มีอยู่ถึง 55.5 ล้านคน จาก 130,00 โรงเรียน แน่นอนว่าจำนวน iPad ที่เป็นฐานตลาดอยู่นั้นมีเพียง 2.7% เท่านั้นเองและยังเป็นตลาด Blue Ocean ที่ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก จึงเป็นโอกาสที่ Apple จะได้บุกเพื่อไปยึดหัวหาดและครอบครองตลาดได้โดยไม่ยากเย็น

.

.

ตรงนี้หลายคนอาจจะค้านว่า Amazon Kindle ไงที่เป็นเจ้าตลาด Ebooks อยู่ในปัจจุบัน ไม่ผิดครับเพียงแต่ว่ามันคือ Ebooks ที่ไม่ใช่ E-textbooks… ด้วย Limitations ที่ Amazon มีนั้นคือ Limitations เกี่ยวกับ Responsiveness และ Interaction ของ Kindle Device ที่เหมาะสมเพียงแค่ใช้ในการอ่าน Content ต่างๆ ที่ไม่หวือหวา เช่น นวลนิยาย นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และอื่น ขณะที่ iPad ของ Apple นั้นสามารถที่จะแสดงผล Voice, Video, Graphical Contents, Effects, อะไรต่างๆ ที่ทำให้เนื้อหาการเรียนรู้น่าสนใจ และที่แน่นอนความเร็วในการ Responsive รวมไปถึงความสามารถด้าน Touchscreen ที่ไม่เป็นรองใครก็เป็นอีก Advantage Edges ที่ Amazon Kindle สู้ไม่ได้

ซึ่งการบุกตลาดการศึกษาและหวังที่จะให้ iPad เป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษานั้น หากว่า Apple สามารถทำได้ขึ้นมานั้น ผมล่ะไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จากอุปกรณ์ Gadget ที่เป็นสิ่งไม่จำเป็น ก็จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นโดยทันที และฐานผู้ใช้ที่ Apple จะได้มาจากจุดนี้ก็จะเป็นเยาวชนของชาติ นักเรียน นักศึกษา จำนวน App และจำนวน Textbook รวมไปถึง Contents อะไรต่างๆนาๆ ก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบ Ecosystem ของ iOS ในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับ Apple

และแน่นอนระบบการศึกษาของอเมริกานั้นเป็นแม่แบบ ให้ระบบการศึกษาในหลายๆประเทศทั่วโลก หากว่า iPad สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาในอเมริกาได้แล้ว ประเทศต่างๆก็ย่อมที่จะก็อปปี้และ Develop ระบบนั้นมาใช้งานในประเทศของตนเอง จากตลาดภายในประเทศก็จะกระจายสู่ตลาดโลกในทันใด

…

ที่นี้ผมจะพูดถึงความเป็นไปได้เช่น Opportunities และ Limitations เกี่ยวกับเรื่องนี้

…

Opportunities

…

ประเด็นแรก เขาประเมินว่าปัจจุบันนี้มี iPad ที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษาอยู่ราวๆ 1.5 ล้านเครื่อง และมี App ที่เกี่ยวกับการศึกษาอยู่ใน Apple Store ราวๆ  20,000 apps และขอเน้นว่าตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นโดย Demand และ Users Driven ที่ Apple ไม่ได้ลงทุนทางด้านนี้สักแดงเดียว Apple ไม่ได้จ้างบริษัทไหนให้พัฒนา Educational Apps ออกมาสู่ตลาด และ Apple ไม่ได้ทำการตลาด Marketing ด้านนี้ด้วยซ้ำ

คำถามก็คือ ถ้าเกิดว่า Apple ตัดสินใจลุยตลาดด้าน Education Industry บุกโรงเรียน High Schools ต่างๆ อย่างเต็ม 100% ตลาดมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญจะตอบรับเช่นไร ?

.

ประเด็นที่สอง ราคาหนังสือ Textbook โดยเฉลี่ยในระดับ High School หรือ K-12 ของอเมริกาอยู่ที่ราวๆ $75 ต่อเล่มและมีระยะเวลาใช้งานต่อเล่มอยู่ที่ราวๆ 5  ปี ขณะที่หากเทียบกับราคาหนังสือต่อเล่มบน iBooks 2 นี้จะตกอยู่ที่ราคาต่อเล่มไม่เกิน $15 และอย่าลืมว่า App นึงสามารถแชร์ผ่านเครื่องได้ 5 Devices  ฉะนั้นพี่ๆน้องๆ ก็สามารถใช้ร่วมกันได้

(ประเด็นนี้ยังไม่ได้ลองนะครับ ว่า Apple มีล็อคตรงนี้ไว้หรือเปล่าใน iBooks 2)

ราคาที่ $75 เทียบกับ $15 ต่อเล่ม และนักเรียนต่างๆ ไม่จำเป็นต้องแบกหนังสือเล่มหนาๆ หนักๆ เดินไปมาตามห้องเรียนต่างๆ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับนักเรียนมากๆ ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายและความสะดวกสบายในการเดินทาง

คำถามก็คือ $15 นี้มันคุ้มไหม นักเรียนนักศึกษาพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนนี้ไหม

…..

ประเด็นที่สาม จะเกี่ยวกับ Contents ว่าจะครอบคลุมตำราเรียนได้ขนาดไหน อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ข้างบนว่า Apple ได้จับมือเป็น Partner กับ 3 สำนักพิมพ์ใหญ่ของอเมริกาที่ครองตลาดตำราเรียนอยู่ถึง 90% และสำนักพิมพ์ต่างๆเหล่านี้กำลังจะปล่อย E-textbooks เวอชั่นของวิชาต่างๆเช่น Algebra, ฟิสิกส์, เคมี, Geometry, Biology และอื่นๆ รวมไปถึง DK Publishing ที่ล่าสุดก็กำลังจะปล่อยหนังสือต่างๆ สำหรับเด็กเล็ก เช่น My First ABC, Mammals, และเล่มอื่นๆอีก

.

.

หาก Apple สามารถที่จะสร้างดีลที่ Win-Win ให้กับ Partnership เหล่านี้ได้ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้นเพราะว่าจากข่าวที่ได้ติดตามอยู่นั้น Apple จะขอแชร์ส่วนแบ่งจากการขายหนังสืออยู่ที่ 30% อีก 70% ที่เหลือ ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากระเป๋าสำนักพิมพ์เหล่านี้เต็มๆหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น่าจะทำให้สำนักพิมพ์เหล่านี้พอใจ

….

Limitations

….

แน่นอนเมื่อมันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ก็ต้องมีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา

ประเด็นแรก คือ ราคาของ iPad ที่ปัจจุบันราคาต่ำสุดอยู่ที่ $499  หรือราวๆ 15,000บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ใช่ทุกคนสามารถหาซื้อได้ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอเมริกาในปัจจุบันที่ย่ำแย่ซึ่งมีผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาลและเงินในกระเป๋าของประชาชน

ประเด็นสอง ละ ความพร้อมของระบบการศึกษาในอเมริกา ว่ามีความพร้อมเพียงพอต่อการใช้เทคโนโลนีต่างๆเข้ามาในการเรียนการสอนหรือเปล่า รวมไปถึงบุคคลากรด้วยเช่นกัน

ประเด็นที่สาม ก็คือ ความจุของ iPad นั้นเพียงพอต่อ e-textbooks หรือไม่ เพราะโดยเฉลี่ยแล้วขนาดไฟล์ของหนังสือ e-textbooks หนึ่งเล่มนั้นอยู่ที่ 1 GB ฉะนั้นหากรุ่นต่ำสุดของ iPad ก็คือ 16GB ก็สามารถจุหนังสือได้ราวๆเพียง 13-14 เล่มเท่านั้นเอง

.

Interesting Update

หลังจากการเปิดตัว iBooks 2 แค่ 3 วัน ยอดดาวโหลด e-textbooks นั้นอยู่ที่ 350,000 ครั้ง รวมไปถึงยอดการดาวโหลดโปรแกรมสร้าง iBooks Author อยู่ที่ 95,000 ครั้ง

.

References

http://www.reuters.com/article/2012/01/19/us-apple-education-idUSTRE80I1EX20120119 : Apple jumps into digital textbooks fray

http://www.reuters.com/article/2012/01/19/idUS316729706320120119 : Apple to invade schools, Takes Aim At Textbook Market

http://gizmodo.com/5877512/apples-ibook-2-textbooks-arrive-today-for-15 : Apple’s iBooks 2 Textbooks Arrive Today for $15

http://www.ibtimes.com/articles/284898/20120120/apple-s-ibook-2-why-american-education.htm : Why the American Education System Isn’t Ready for the e-Textbooks Strategy

http://www.ibtimes.com/articles/286274/20120123/apple-ibooks-2-users-downloaded-350k-ipad.htm : Apple iBooks 2, Why Users Downloaded 350K in 3 Days

Filed Under: Tech Tagged With: amazon kindle, apple, dark ages, e-book, e-textbook, education, houghton, ibooks author, ibooks2, ipad, ipad2, mcglaw-hill, pearson

เลือกซื้อ iPhone 4S ซื้อของค่ายไหนคุ้มที่สุด (AIS, DTAC or TRUEMOVE H)

January 22, 2012 by Chaiyasit Admin Leave a Comment

.

ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีปีใหม่ 2012 ปีมังกรหรือปีแห่งความสนุก (2555) ปีนี้น่าจะเป็นปีที่เราคนไทยเล่นสงกรานต์กันสนุกเลยทีเดียว ส่วนใครที่ปีนี้เป็นปีชง หลักๆก็คือคนที่เกิดปีมะโรง ปีจอ ปีฉลู ปีมะแม ปีเถาะ ถ้าปีที่ชงแบบเต็มๆที่สุดก็น่าจะเป็นปีจอนะครับ เพื่อความสบายอกสบายใจก็อยากจะขอแนะนำให้ไปไหว้พระทำบุญอะไรกันให้เรียบร้อย ไม่ต้องวิตกกังวลกันครับ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของความเชื่อ ขอแค่เราทำดีเป็นคนดี ท้ายสุดเราก็จะได้อะไรดีดีกลับคืนมา ไม่ช้าก็เร็วครับ

สืบเนื่องด้วยที่ว่ามีเพื่อนผมหลายคนมาก ขอเน้นว่าหลายคน ชอบมาถามผมเหลือเกินว่าจะซื้อ iPhone 4S ว่าแต่ซื้อของค่ายไหนดี? และตรุษจีนปีเวลาดีนี้หลายๆคนก็คงได้อั่งเปาซองแดงมีตังเป็นกอบเป็นกำแล้วกำลังจะมีแผนไปสอย iPhone 4S แล้วก็มาดูกันดีกว่าว่าคำตอบของผมที่ให้เพื่อนคืออะไร

– ซื้อ iPhone 4s ของค่ายไหนคุ้มที่สุด

– โปรโมชั่นของค่ายไหนดีที่สุด

เริ่มต้นก็มาดูราคาเครื่องเปล่าและราคาเครื่องพร้อมโปรของแต่ละค่ายเลยดีกว่าเริ่มต้นกันด้วย

.

AIS

.

.

DTAC

.

ราคาเครื่อง Dtac

.

truemove H

.

ราคาเครื่อง truemove H

.

เริ่มต้นหากสังเกตุเห็นราคาเครื่องเปล่า iphone 4s ของทุกค่ายราคาเท่ากันหมดที่ 22,450- 26,350- และ 30,250- ตามลำดับ

ส่วนราคาเครื่องที่ขายพร้อมแพ็กเกจหรือโปรโมชั่นนั้นแต่ละค่ายก็มีราคาที่แตกต่างกันไปนะ ส่วนของใครถูกที่สุดมาดูกัน

16GB : ทุกค่ายราคาเท่ากันที่ 21,700-
32GB: AIS และ True H ขายเท่ากันที่ 25,400- ด้าน Dtac 25,500-
64GB: True H ถูกสุดที่ 29,100- AIS ที่ 29,200- และแพงสุด Dtac 29,500-

หากเทียบกันแล้ว ถ้าจะซื้อเครื่องเปล่า ซื้อที่ truemove H น่าจะคุ้มที่สุด (หรือเปล่า?)

“เครื่องเปล่าแบบไม่ติดโปรโมชั่นเรายังสามารถซื้อผ่านทาง Apple Store ได้เช่นกันครับราคาตามนี้เลย”

.

ราคาบน Apple Store

.

เห็นราคาแล้วตกใจเลยครับ สรุปแล้วไม่ต้องเทียบให้เสียเวลา หากว่าเราจะซื้อ iPhone 4S แบบเครื่องเปล่า

ซื้อผ่าน  Apple Store ได้เลยครับ 😀

ราคานี้เป็นราคาที่ net แล้ว แถมไม่ต้องเสียภาษีด้วยครับฉะนั้นไม่ต้องกังวล

หากว่าเครื่องที่ซื้อผ่าน Apple Store แล้วมีปัญหาต้องการเปลี่ยนหรือส่งซ่อม ทาง Apple มีศูนย์บริการ ประจำประเทศไทยอยู่ที่

.

Thailand Apple South Asia (Thailand) Limited
25th Floor, Suite B2, Siam Tower,989 Rama 1 Road, Pataumwan, Bangkok, 10330

.

ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมด้าน Warranty ก็เช็คได้ตามลิ้งนี้ครับ

http://images.apple.com/legal/warranty/docs/iPhone_4_warranty.pdf

.

ส่วนคนที่สนใจเครื่องที่มาพร้อมแพ็กเกจหรือโปรโมชั่นก็มาดูกันต่อครับว่า AIS, Dtac  และ truemove H มีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง

.

AIS

.

Package AIS

.

DTAC

.

Package DTAC

.

truemove H

.

.

ด้วยที่ว่าการเลือกโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจเนี้ย มันไม่สามารถที่จะฟันธงได้ว่า โปรโมชั่นหรือแพ็กเกจไหนเหมาะกับทุกคนมากที่สุด เพราะรายละเอียดค่าโทร ค่าSMS ค่าMMS ค่า3G ไม่เท่ากันและเราแต่ละคนก็มีนิสัยการใช้ที่แตกต่างกัน

เราเลยมาใช้การคำนวนแทนว่าแต่ละโปรโมชั่นของแต่ละค่ายเนี้ย โปรไหนให้ส่วนลดเทียบออกมาเฉลี่ยเป็นรายเดือนมากที่สุด

MAD = (Monthly Average Discount) = ส่วนลดค่าเฉลี่ยแบบรายเดือน

.

AIS

เอไอเอส – เจ้าแรกมีโปรโมชั่นอยู่  5 แบบด้วยกันและเป็นแบบ 24 รอบบิลฉะนั้นหลังจากคำนวนส่วนลดแล้วเราจะนำส่วนลดนั้นมาหารด้วย 24 เพื่อจะได้ส่วนลดเฉลี่ยรายเดือนหรือ MAD (Monthly Average Discount)

1) โปร 299บ. (ฟรีรอบเดือน 19-24 คิดเป็น 1794 บาท ) MAD อยู่ที่ 74.75 บาท
2) โปร 399บ. (ฟรีรอบเดือน 21-24 คิดเป็น 1596 บาท ) MAD อยู่ที่ 66.5 บาท
3) โปร 549บ. (ฟรีรอบเดือน 21-24 คิดเป็น 2196 บาท ) MAD อยู่ที่ 91.5 บาท
4) โปร 839บ. (ฟรีรอบเดือน 21-24 คิดเป็น 3356 บาท ) MAD อยู่ที่ 139.8 บาท
5) โปร 899บ. (ฟรีรอบเดือน 21-24 คิดเป็น 3596 บาท ) MAD อยู่ที่ 149.8 บาท

.

Dtac

ดีแทค – มีโปรโมชั่น 2 แบบและเป็น 18 รอบบิลเท่านั้นซึ่งถือว่าสั้นที่สุดครับ

1) Superdeal L 899   (ส่วนลดเดือน 1-6 เหลือ 499 บาท และเดือน 7-18 เหลือ 649 บาท ) MAD อยู่ที่ 166.6 บาท
2) Superdeal M 580 (ส่วนลดเดือน 1-6 เหลือ 280 บาท และเดือน 7-18 เหลือ 380บาท ) MAD อยู่ที่ 100 บาท

.

truemove H

ทรูมูฟ เอช – มีโปรโมชั่นอยู่ 3  แบบที่ 24 รอบบิลเช่นเดียวกับ AIS

1) Package S 399    ( ฟรีรอบเดือนที่ 19-24 คิดเป็น 2394 บาท ) MAD อยู่ที่ 99.75 บาท
2) Package M 579  ( ฟรีรอบเดือนที่ 19-24 คิดเป็น 3474 บาท ) MAD อยู่ที่ 144.75 บาท
3) Package L 799    ( ฟรีรอบเดือนที่ 19-24 คิดเป็น 4794 บาท ) MAD อยู่ที่ 199.75 บาท ***

หากตัดสินกันตาม ส่วนลดเฉลี่ยรายเดือนหรือ MAD  (Monthly Average Discount) โปรโมชั่นหรือแพ็กเกจของ truemove H ก็น่าจะที่จะคุ้มที่สุดนะครับที่เฉลี่ยเดือนๆนึง ประหยัดไป 199.75 บาท (มั้ง)

Filed Under: Tech Tagged With: ais, DTAC, iPhone 4s, TRUEMOVE

RIM / Blackberry – โอกาสสุดท้ายกับ – the Blackberry 10 OS

December 14, 2011 by Chaiyasit Admin Leave a Comment

.

The year 2011,  it seems to be a failing year for Blackberry, though it is the year that RIM has launched many new OS7 Blackberry devices like 9900, 9360, 9860 etc. And surely this includes the launch of the 1st Blackberry Tablet like the PlayBook. What do i think of these new launches this year?

Blackberry OS 7 devices

Well, i would say the new OS7 devices with a touch screen like 9900, 9810, 9860 for example, are not really bad at all for Blackberry. UI experiences with a touch screen combining with a trackpad control, plus a more performance cpu like 1Ghz and above does an italian job for RIM to win many hearts from its own fans. These things has erased a feeling of waiting and frustrating (the clock spinning tick tock tick tock), enhanced UI experiences by  scrolling up and down with your fingers on email, browser, and apps. While it may satisfy Blackberry fans’ appetites, does it do enough for other people to divert their heads to use Blackberry phones?  …

It COULD but it was too and very LATE. . .

.

Competition is very furious… by sencha.com

All these features have existed in iPhone, and Android phones for ages. Why waited til late 2011 for all these things? RIM is really a PAST TENSE company this year, and the expectations and its stock price shows it all.

Blackberry DevCon 2011 by intomobile.com

By the way, here i am back to the Conrad Contennial Hotel, thank to RIM’s generosity, after 2 full days (7th – 8th Dec) of the Blackberry DevCon Asia in Singapore at SunTec International Convention & Exhibition Hall. And I did attend the Keynote session where RIM’s senior management officiers came up on stage and talking about the future of Blackberry. And yes, of course, the new coming Blackberry 10 OS is mentioned. It sounds exciting right? 🙂

Here are the key conclusion about the prospects and excitements of the new Blackberry 10 OS.

NFC for Blackberry

.

.

1) NFC embedded Blackberry devices

well, NFC – for personal uses of wireless contact: mobile payment, file transfer, contact exchange, Tap to download, E-stamp, etc . . .

.

.

.

ScoreMobile with BBM Integration… by theberryfix.com

.

.

2) BBM integration with apps

Social app is a key to drive Blackberry to be successful in a consumer market. . . This integration allows Blackberry apps to involve interactions between BBM users, for example:  chat, voice message, sending pictures, sharing locations, suggesting/inviting your BBM users to download an app or even buying applications for you, and etc depending on developers’ creativity.

.

.


3) Cascades UI by TAT

will be standard UI for the new coming Blackberry 10 OS in which can be used by developers to developer their apps.

Cascades UI

.

4) HTML5

Claimed to be an ideal choice for an alternative way to developer apps on Blackberry 10 OS, in which is compatible and can be run on Blackberry Playbook OS, OS 6 and OS 7. . . tho it’s not as powerful as the Native

HTML5 for Blackberry 10 OS by 91mobiles.com

.

For me the most promising things about the Blackberry 10 OS are the BBM integration and the Cascade UI by TAT. Great and easy to use UI is very important for both developers and users. It is where users interact and communicate with phones. If the Cascade UI can do the job like it’s promised, then it’s a very real good start for the Blackberry future. Second but not least, users are now like to get connected especially with their friends and family. The BBM integration will do its job to get users connected via applications. Standalone application is dying. Single player game exists but becomes less and less. It’s about time for sharing and connecting.

.

Cascades UI on Blackberry Playbook
MOLOME BBM Integration

.

With all these i’m not saying that next year 2012 will be a great year for RIM. . .  but it has a very good prospect, i think they have stepped onto a right path. and, with fingers-crossed, i think that they couldn’t get any worse than this year…

RIM has bet its own fortune with this new Blackberry 10 OS just like NOKIA has done with Microsoft’s Windows Phone. They both discarded their old fortunes: Symbian, Meego, and old Blackberry OS, and they both look for and to become what i describe as a FUTURE TENSE company.

Only one thing i wanna say to RIM/Blackberry is

“Done what should be done and ACT QUICK!”

Filed Under: Tech Tagged With: BBM integration, blackberry, Blackberry 10, Blackberry DevCon, Cascades UI, DevCon 2011, HTML5, NFC, RIM, TAT

MOTOROLA ATRIX 4G AT&T … How to update from GINGERBLUR to ALIEN ROM ( GINGERBREAD 2.3.4 or AT&T 4.5.91 )

September 18, 2011 by Chaiyasit Admin 7 Comments

..

To make it clear and simple about this blog is that i’ve just finished upgrading my Motorola Atrix 4G (AT&T) to ALIEN ROM by kennethpenn which runs on Gingerbread 2.3.4 ( AT&T 4.5.91 ) and i’ve found out that although it’s not that difficult to do so, it inevitably took quite sometime for a  noob like me to flash ROMs on an android device back and forth without risking myself to BRICK the phone!!!. Fortunate to me that i’ve managed to do so without hassles. However, this came with a few hours of research before given my hand on the flashings. The guides to do so are everywhere on Google and xda-developers website, however there are no direct instructions just yet and here you go…..

…

Please note that in this instruction, I am only a person who collect guides from different sources and combine&organize them for you. All credits & files download links here are NOT mine. Each sub-instructions here will be referred back to original posts/blogs/threads….
333
[Flashing at your own risks, and I’m not holding any responsibilities to any damage caused to your device
This method is working on mine and my intention is just wanting to share ^.^ ]

…

First of all, if your ATRIX 4G is

  • AT&T
  • GINGERBLUR (i was running on 4.5)

and your aim is to either upgrade your ATRIX 4G to

  • Gingerbread 2.3.4 [STOCK]
  • Alien Rom V4

Then you are good to go 😉

—————————————————————————————————————————————————————————————-

The 1st step:

Flash your Atrix4G from MOTOBLUR back to AT&T Official 1.8.3 version.

R1 : [Guide] Flash SBF to Motorola Atrix4G by kennethpenn

…

Complete all prerequisites and follow all instructions.

You need AT&T Official 1.8.3 version so please google and look for “OLYFR_U4_1.8.3_SIGNED_OLPSATTSPE_P013_HWolympus_1g_Service1FF.sbf”

Done? .. Congratulation and welcome to AT&T Official 1.8.3 Stock Rom.

—————————————————————————————————————————————————————————————-

The 2nd step:

Flash your Atrix 4G from AT&T Official 1.8.3 version to [Stock ROM] Gingerbread 2.3.4 ( AT&T 4.5.91 )

Before we move on to this step, please keep in mind that updating Gingerbread AT&T 4.5.91 via OTA will slim your chance of flashing your ATRIX4G back to previous version of ROMs and risk yourself BRICKING the phone.

If you want to know more about this, please study this thread

R2 : [WARNING] Hard Brick with Official 4.5.91 Update by kennethpenn

…

Ready now? let’s move on to the 2nd step

R3 : Unlock the Atrix 4G Bootloader by the2dcour

R4 : [STOCK ROM] Android 2.3.4 Gingerbread 4.5.91 (Safest Update) by kennethpenn

…

unlocking bootloader
Gingerbread 2.3.4

.

.

.

.

.

.

.

.

After this step, your ATRIX 4G will be running on Gingerbread 2.3.4 ( AT&T 4.5.91) clean and clear without modifying your Bootloader 😉

If you are happy with this [STOCK] Gingerbread 2.3.4 (AT&T 4.5.91), then you are good to go out and enjoy,

otherwise here we go.. Let’s be ALIEN!!

—————————————————————————————————————————————————————————————-

The 3rd step:

Flash your Atrix 4G from Gingerbread 2.3.4 ( AT&T 4.5.91 ) to ALIEN ROM V.4

Since you are now on fresh, clean and clear Gingerbread 2.3.4 now, you need to root and install CWM recovery to flash ALIEN ROM and here are the instructions

To root Atrix 4G Gingerbread 2.3.4 ( AT&T 4.5.91 )

R5 : How to root Motorola Atrix with 4.5.91 Gingerbread 2.3.4 by Digitalweaker

…

To install tenfar’s CWM Recovery

R6 : [Unlocked Only][Release] CWM Recovery Mod for Atrix 4G 2011-06-30 updated again! by tenfar

…

And after you are done rooting & installing tenfar’s CWM recovery, you are now more than ready to flash ALIEN Rom!

R7 : [ROM] Alien Build #4 8/14 by kennethpenn

…

After you’ve done flashing to Alien Rom, i would recommend you to install Alien Theme too 😉

..

ALIEN ROM SS from kennethpenn

—————————————————————————————————————————————————————————————-

Conclusion:

Enjoy yourself with the empower ATRIX 4G with Alien ROM with Gingerbread 2.3.4

  • Faster
  • Smoother
  • Tethering enabled
  • Network selection enabled (2G only, 3G only, or Automatic)
  • Smarter Gallery & Camera app
  • Unlock screen via gesturing like Samsung Galaxy S 2
  • Motoblur disabled
  • Enjoy the power of GREEN 😉

Any questions please let me know, i will try my best to answer it ^0^


Filed Under: Tech Tagged With: 2.3.4, 4.5.91, alien rom, gingerbread, motoblur, Motorola Atrix 4G, update, upgrade

  • « Go to Previous Page
  • Go to page 1
  • Go to page 2
  • Go to page 3
  • Go to page 4
  • Go to page 5
  • Go to page 6
  • Go to Next Page »

Primary Sidebar

LIVE ONCE

Search

Recent Posts

  • คุ้มไหม? กับสิทธิประโยชน์บัตร American Express Platinum ปี 2018 กับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท
  • Wat Mahathat Worawihan in 10 Photos (Ratchaburi)
  • มากิน Haidilao Steamboat สุกี้สัญชาติจีน การบริการหลุดโลก 313@Somerset
  • X2 River Kwai Kanchanaburi In The Morning Photo Gallery
  • ประเดิม 10 km แรกกับ Nike Zoom Fly เปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19

Copyright © 2023 · Metro Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in