บัตร American Express Platinum บัตรชาร์จการ์ดตัวท็อปสำหรับนักเดินทางตัวจริงของ American Express ที่ต้องได้รับการเชิญเท่านั้นถึงจะมีสิทธิสมัครได้ นอกจากนี้ก็มาพร้อมค่าสมาชิกรายปี 35,000 บาท ค่าสมาชิกรายปีสูงแบบนี้ หลายคนอาจจะส่ายหน้า และพูดว่าบัตรใบอื่นยังยกเว้นค่าธรรมเนียมได้เลยถ้ายอดถึงเกณฑ์ แต่ทำไมบัตร Amex Platinum ใบนี้มันถึงยกเว้นไม่ได้นะ ถ้าต้องจ่ายเต็ม 35,000 บาท มันจะคุ้มมั๊ย? เราจะมาวิเคราะห์และเจาะลึกถึงสิทธิประโยชน์ สิทธิพิเศษ ของเจ้าบัตรนี้ว่ามันมีอะไรบ้างมาดูกัน [Read more…] about คุ้มไหม? กับสิทธิประโยชน์บัตร American Express Platinum ปี 2018 กับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท
Wat Mahathat Worawihan in 10 Photos (Ratchaburi)









มากิน Haidilao Steamboat สุกี้สัญชาติจีน การบริการหลุดโลก 313@Somerset

รอบนี้มาสิงคโปร์ได้มีโอกาสมากินสุกี้ (hotpot) หรือที่คนสิงคโปร์เรียก “steamboat” ร้านสุกี้ร้านนี้เพื่อนคนสิงคโปร์ย้ำนักหนาว่าจะพาเรามากินให้ได้ และการันตีว่าเราจะชอบ ย้ำนักหนาขนาดนี้ก็ขอไม่เสียน้ำใจเพื่อนนะ

Hai Di Lao hotpot (海底捞火锅) เป็นแฟรนไชส์สุกี้ (火锅) ที่มาจากประเทศจีน และมาเปิดสาขาที่ประเทศสิงคโปร์ สาขาที่ไปกินอยู่ที่ห้าง 313@Somerset ตรง MTR Somerset ไปได้ไม่ยาก


เดินเข้ามาที่หน้าร้านก็เจอโต๊ะสีแดงเยอะมาก ขนาดกระทัดรัด วางอยู่เต็มหน้าร้าน ในใจก็คิดว่าเหมือนเก้าอี้กินก๋วยเตี๋ยวตามร้านเยาวราชที่บ้านเราเลยนะ แต่ทำไมมันมาอยู่หน้าร้านหว่า ก็เลยเข้าไปถามพนักงานจึงได้รู้ว่า เป็นเก้าอี้เอาไว้สำหรับนั่งรอคิว นอกจากนี้ยังมีบาร์น้ำดื่ม บาร์ขนม ของกินเล่นเอาไว้นั่งรอ ยังไม่หมดนะ ยังมี board games มีหนังสือพิมพ์ มีห้องเด็กเล่น และที่สำคัญมีห้องทำเล็บไว้บริการระหว่างรอด้วย ยังไม่ทันได้กินเลยในใจเราก็รู้สึกประทับใจในความใส่ใจในรายละเอียดของร้านแล้ว



หลังจากได้โต๊ะ พนักงานก็เข้ามาเสริฟผ้าร้อนทันทีพร้อมมอบ iPad ประจำโต๊ะเอาไว้สำหรับสั่งอาหารได้เอง โดยที่หม้อสุกี้ของร้าน Hai Di Lao นี้ก็เด็ดมากสามารถเลือกน้ำซุปได้ 4 ชนิด คือเลือกจุ่มกันได้ครบรสชาด ไม่ต้องมีตบตีกันกับเพื่อนเลย ซึ่งเรามากัน 4 คนก็เลยเลือกกันไปคนละซุปมี น้ำซุปไก่, น้ำซุปหม่าล่า (ทีเด็ดของสุกี้จีนเขาหละ), ซุป Laksa และสุดท้ายอันนี้ชอบมากกับซุปมะเขือเทศ (ในใจนึกถึง Tomato Ramen ที่บ้านเราเลย) สั่งเสร็จสักพักพนักงานก็เอาซุปมาเทให้ และเราก็สังเกตเห็นเขาเอาตะแกรงเล็กๆ มาเกี่ยวกับช่องซุปในหม้อ ซึ่งเป็นช่องที่เอาไว้ให้เราต้มเนื้อ และเนื้อจะได้ไม่ลอยหายไปในซุป เฮ้ย นี้มันโคตรจะใส่ใจเกินไปละนะ ยังไม่ทันหายประหลาดใจ สักครู่พนักงานอีกคนก็เดินเอาเอี้ยมกันเปื้อนมาให้ พร้อมเอาผ้ากันกลิ่นมาคลุมกระเป๋าและเป้ให้เราอีก ไม่พอๆ สักพักก็ยื่นซอง Zip Lock มาให้พร้อมบอกว่าเอาไว้ใส่มือถือ เพราะความร้อนและไอจากหม้อสุกี้อาจจะทำให้หน้าจอมัน หรือน้ำซุปกระเด็นใส่ได้ เพื่อนเราพอเห็นว่าเรากำลังปลาบปลื้มกับการบริการสุดประทับใจ ก็มีเกทับต่ออีกนิดว่า เฮ้ ยู ยูรู้ไหม ที่นี่มีบริการเปลี่ยนแผ่นกันรอย iPhone ให้ฟรีด้วยนะ และมันก็โชว์เรียกพนักงานและบอกว่าต้องการเปลี่ยนแผ่นกันรอย พนักงานก็ เยส เยส รับ iPhone ไปและส่งหมายเลขรับฝากมาให้… บร้าไปแล้ว


ส่วนด้านอาหารจะเป็นแบบ a la carte จะไม่ใช่บุฟเฟ่ คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี รสชาดดี ปริมาณที่ให้ให้เยอะพอสมควร ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ระหว่างกินไปเราก็หยิบ iPad มากดเล่นดู ใน iPad นอกจากจะสั่งอาหารได้ ยังสามารถดูยอดเงินล่าสุด สามารถสั่งดีเลย์การเสริฟอาหารได้ แต่ที่ว้าวสุดๆ ก็คือสามารถ cctv ดูห้องเล่นเด็กได้ และสามารถดูห้องครัวตอนเตรียมอาหาร มันเป็นความใส่ใจใน hygiene และในความเป็นครอบครัวมากๆ


สรุปได้มาลองกิน Hai Di Lao hotpot รอบนี้ 4 คน ค่าเสียหายรวมกันอยู่ $225 SGD หรือประมาณคน $45 SGD ซึ่งถือว่าไม่แพงมาก เพราะที่สิงคโปร์ราคามันก็ประมาณนี้แหละ ส่วนเรื่องอื่นให้คะแนน
ความอร่อย 8 / 10
การบริการ 20 / 10
รอบหน้าถ้ามาสิงคโปร์แล้วอยากกินสุกี้ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะกลับมากินร้านนี้อีกแน่นอน 🙂



X2 River Kwai Kanchanaburi In The Morning Photo Gallery
ประเดิม 10 km แรกกับ Nike Zoom Fly เปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19
มาแล้วกับผลประกอบการแรก 10 กิโลเมตรกับรองเท้าวิ่งตัวซิ่ง Nike Zoom Fly สีแดงแปร้ด Bright Crimson และเมื่อเปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19 ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน สิ่งแรกเลยที่รู้สึกชัดๆ ก็คือ “ความเบา” รองเท้าคู่ Nike Zoom Fly ใส่แล้วรู้สึกเบามากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนสิ Nimbus 19 น้ำหนักอยู่ที่ 315 กรัม ขณะที่ Zoom Fly 247 กรัม
สิ่งที่รู้สึกชัดๆ ตามมาก็คือ “ความเด้งดึ๋ง” ถ้าสังเกตกันดีดี จะเห็นว่า Nike Zoom Fly มีส้นที่สูงถึง 33 มิลลิมเตร เวลาวิ่งมันเลยรู้สึกมีความเด้งดึ๋งแปลกๆ แต่ความหนาของส้นก็มีผลทำให้เวลาวิ่งจะมีแรงกระแทกที่เท้าค่อนข้างกระด้างกว่า Nimbus 19 พอสมควร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่มาก เวลาวิ่งกับ Zoom Fly จะเป็นการวิ่งที่ลงน้ำหนักลงบนกลางเท้าแบบเต็มๆ และเวลาก้าวไปข้างหน้า ด้วยส่วนปลายของรองเท้าที่มีส่วนสโลป จะเป็นตัวดันและเพิ่มแรงส่งได้ดีพอสมควร ทำให้รู้สึกว่าความเร็วในการวิ่งจะเร็วขึ้นกว่าเติม ในการลงแรงเท่าๆกัน
เปรียบเทียบ Stride Length จะเห็นว่าใส่ Zoom Fly แล้วความยาวของการก้าวจะอยู่ที่ 0.99 เมตร ในขณะที่ใส่ Nimbus 19 จะอยู่ที่ 0.97 เมตร และค่าเฉลี่ย Cadence รอบขาในการก้าวก็ลดลงจาก 155 ต่อนาที เหลือ 153 ครั้ง
ช่วง 500 เมตรสุดท้ายตอนวิ่งแอบมีอาการตึงๆ ที่กลางเท้า ไม่แน่ใจว่าเป็นที่แรงกระแทกที่แข็งขึ้น หรือเป็นเพราะอาการล้าจากมาราธอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไงไว้เดี๋ยวรอบหน้าจะลองใส่ Zoom Fly ไปวิ่ง Half Marathon แล้วค่อยมาอัพเดทความรู้สึกกันอีกที
ผลประกอบการเปรียบเทียบกันระหว่าง Zoom Fly และ Nimber 19 จะเห็นว่า Pace ที่ได้จะเร็วขึ้นจาก 6:40 (Nimbus 19) เป็น 6:36 (Zoom Fly)
สุดท้ายถ้าถามว่าชอบไหมกับ Nike Zoom Fly ก็ต้องบอกว่าชอบในรูปลักษณ์มาก เป็นรองเท้าที่เด่น โดยเฉพาะ (สี) ตัววัสดุโดยรอบมีความนุ่ม โดยเฉพาะที่ปลายเท้า ใส่รองเท้าไปแล้วรู้สึกว่าตัวรองเท้าค่อนข้างกระชับ เวลาวิ่งไม่มีอาการเท้าไหลไปกระแทกปลายรองเท้า ด้วยที่รองเท้ามีพื้นที่ค่อนข้างหนาบริเวณส้นเท้าและเทไล่ระดับไปที่ปลายเท้าทำให้เป็นตัวช่วยแรงส่งในการวิ่งที่ดี แต่ก็แลกมาด้วยแรงกระแทกที่ค่อนข้างกระด้าง แต่ด้วยเพิ่งลองวิ่งไปแค่ 10 กิโลเมตร แถมเป็นการวิ่งเบาๆ วอล์มหลังวิ่งมาราธอนเพียงแค่ 1 สัปดาห์ จึงจะไม่สามารถสรุปได้มาก ต้องขอใช้เวลาวิ่งกับมันอีกสักหน่อย