• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

LIVE ONCE

Only Live Once, Smart Life, Spend Wisely - dogs, travel, tech, running and freedom

  • Travel
  • LifeStyle
  • Sport
  • Book
  • Tech
You are here: Home / Archives for Nokia

Nokia

รีวิว และ Goodbye HTC HD7 : Windows Phone 7

May 2, 2011 by Chaiyasit Admin 3 Comments

และแล้วก็ถึงคราวที่ต้องจากลา …. ณ นาทีนี้ ภาพหลายๆภาพ เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอะเจอก็ได้ Flashback กลับเข้ามา…..

…

 

 

 

 

นับจากวันแรกวันนั้นก็เมื่อวันเปิดตัว HTC HD7 ที่ตึก Dtac ยังจำได้เลยว่าตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่ไม่ใช่แค่ว่าได้มือถือตัวใหม่ แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือการที่จะได้ลิ้มลองระบบปฏิบัติการใหม่ที่มีชื่อว่า Windows Phone 7 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสจับมาแล้วบ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้มีโอกาสเอามาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ว่าจะใช้งานได้ดีแค่ไหน …. ฟังดูแล้วนิสัยเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่เลยเนอะ จริงๆ ก็ประมาณนั้นนั้นแหละ

อย่างไรก็ดี ณ วันนี้ผมก็ได้ขายเจ้า HTC HD7 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สดๆร้อนๆ กันเลยทีเดียว ส่วนเหตุที่ผมขาย HTC HD7 ไปนั้นคงไม่ได้หมายความว่าเจ้า Windows Phone 7 หรือ เจ้ามือถือ HTC HD7 มันแย่มากจนต้องขายทิ้ง ซึ่งตรงนี้ผมก็บอกตรงๆ เลยว่าหลังจากที่ผมได้มีโอกาสได้ใช้มันมานี้ 4-5 เดือนก็ถือว่าโดยมือถือ HTC HD7 เป็นมือถือที่ผมชอบในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสเป็คเครื่องๆ ขนาดหน้าจอ หรือที่ชอบมากก็คงจะเป็น Gimmick ที่เป็นขาตั้งเครื่องโทรศัพท์แบบพร้อมที่จะนอนดู Youtube หรือดูหนังได้แบบสบายๆบนเตียงหรือบนโต๊ะแบบชิลชิล…

ส่วนด้านตัว Windows Phone 7 ก็มีข้อดีในหลายๆข้อเช่น Live Tiles, People Hub, User Interface แบบใหม่ที่ใช้งานง่ายเข้าถึงการเปิดโปรแกรมได้รวดเร็ว, ความสามารถในการรับอีเมล์ที่รวดเร็วซึ่งหลักๆผมใช้ Gmail และที่สำคัญ Hotmail รับได้เร็วมากๆ เร็วกว่าบีบีอีก รวมไปถึง Web Browser (IE) ที่สามารถโหลดหน้าเวปได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไม่มีการหน่วงเลย แม้ว่าจะต้องเปิดเวปในหน้าที่มี Content เยอะๆ

Limitations

แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันดีทุกคนนะครับว่า ไม่มีสิ่งไหนในโลกนี้หรอกที่มันสมบูรณ์แบบ “No such thing in this world that is perfect” ภายในสิ่งดีดีๆที่มี มันก็มีสิ่งที่ไม่เวิร์คบ้างเช่นเดียวกัน ส่วนข้อเสียหรือข้อด้อยที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้มันก็ไม่ใช่ The end of the world นะครับ มันก็เป็นแค่ความเห็นของผู้ใช้ตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้นเอง บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับผมก็ตามนั้นครับ เพราะอย่างไรก็ดีสุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะหันมาสนใจใช้ Windows Phone 7 หรือว่าถ้าใช้อยู่แล้วจะใช้ต่อ หรือแม้ว่าจะขายทิ้งออกไปอย่างเช่นผมก็คือตัวคุณเองนั้นแหละ จริงไหม 😛

WP7 Dialer – thank to ITSCJ.com

1) Smart Dialer

ก็เริ่มพูดถึงข้อด้อยเลยดีกว่าอย่างแรกเลยเนี้ยก็คือ มันยังไม่มี “Smart Dialer” หรือการเดา Contact เวลาเรากดเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งด้วยการที่ผมมีจำนวนรายชื่อเพื่อนกว่า 600 คนใน Contacts อันนี้ยังไม่รวมรายชื่อที่ถูก integrate หรือรวมเข้ามาทาง Facebook นะทำให้เวลาไถเบอร์โทรศัพท์ทีนี้ ไถๆรูดๆกันไปเลยกว่าจะเจอแม้ว่ามันจะมีสารบัญมาให้นะ ซึ่งจริงๆ มันอาจจะมี Application เสริมให้โหลดแล้วก็ได้ แต่ผมยังหาไม่เจอที่เป็นแบบ Free นะครับ

2) Marketplace

ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่อง Application แล้วก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงเรื่องการที่เราคนไทยยังไม่สามารถที่จะซื้อ Application  ผ่าน Marketplace ได้เพราะว่าทาง  Microsoft ยังไม่ Support เมืองไทยนั้นเอง ทำให้เราสามารถที่จะลงได้เฉพาะ Free App เท่านั้นเอง T_T ฟังดูน่าเศร้าและนี้คงยังไม่ต้องพูดถึงจำนวน Application ทั้งหมดที่มีว่าน้อยขนาดไหน

3) Thai Keyboard

เรื่อง Keyboard ภาษาไทยเลยตัวสำคัญที่แม้ว่า ณ วันนี้ ต้องขอบคุณทาง xdadeveloper ที่เขาสามารถทำการแฮคเจ้า Windows Phone7 ให้สามารถลงคีร์บอร์ดภาษาไทยได้แล้ว เพียงแต่ว่า Layout การพิมพ์ที่ยากลำบากในการใส่สระ วรรณยุกต์ต่างๆ นั้นทำให้ผมมีวันและเวลาที่ยากลำบากในการพิมพ์ภาษาไทยมากๆ ซึ่งผมเดาว่าคนอื่นๆ ก็คงคิดไม่ต่างกัน (เนอะ)

4) Twitter Client

ขาดโปรแกรม Twitter Client ที่มีประสิทธิภาพ โดนส่วนตัวผมเป็นคนที่ใช้งาน Twitter  แทบจะตลอดเวลาและผมได้ลองใช้ Free Twitter Client หลายๆตัวเลยไม่ว่าจะเป็น Beez, Seesmics, MoTweet แล้วตัวที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็น MoTweets ที่ใช้แล้วมันตอบสนองในการโหลด Timeline ที่ค่อนข้างเร็ว ต่างจาก App ตัวอื่นๆ ที่ขอบอกว่าช้ามากๆ และก็มีปัญหาในการโหลด Timeline ด้วยที่บางทีก็โหลดไม่ขึ้น แต่อย่างไรก็ดีตัว MoTweet  ก็มีข้อเสียตรงที่มีส่วนของโฆษณาที่กินพื้นที่ App ไปเยอะมาก รวมไปถึง Bugs ต่างๆ ที่ยังมีพอมากพอสมควร

5) PDF Support

ด้วยที่ Windows Phone 7 โดยตัวของมันเองยังไม่สามารถอ่านไฟล์ PDF ได้และยังต้องพึ่ง 3rd Party Application ของ Adobe ในการเปิดอ่านซึ่งยังคงมีปัญหาในการเปิดไฟล์ PDF ที่มีขนาดกลาง – ใหญ่ ซึ่งจะเปิดได้ช้ามาก พร้อมทั้งเวลา Navigate ข้อมูลใน PDF ก็จะมีอาการหน่วงๆ ค้างๆ เกิดขึ้นเป็นจังหวะในการเปลี่ยนหน้าแทบจะตลอดเวลา ซึ่งผมมองว่ามันไม่ค่อยที่จะ Practical ในการใช้เท่าไหร่ในปัจจุบันที่มีการใช้งาน PDF ค่อนข้างเยอะในการส่งเอกสาร

6) Hotmail?

สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้อีเมล์ Hotmail เป็นหลักจะค่อนข้างมีปัญหาในการจัดการข้อมูลส่วนตัวเช่น Contact, หรือ Calendar พอสมควร เพราะโดยส่วนตัวของผมเน้นใช้บริการของ GMAIL ตรงที่เจ้า Windows Phone7 จะทำการ Sync ทั้ง Contact (รวมไปถึงข้อมูลของ Windows Live Messenger ทุกคน) และ Calender เข้ามาโดยที่คุณไม่สามารถไปปลดออกได้ เหมือนโดนบีบบังคับให้ต้องใช้ แม้ว่าคุณจะไม่อยากใช้ก็ตาม แล้วปัญหาที่ตามมาก็จะเกิดข้อมูลรกมากเยอะแยะไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องการ

สำหรับข้อนี้หากนึกไม่ออก ลองนึกภาพว่าใน MSN ลิสของเรามีใครอยู่บ้าง ซึ่งเราๆท่านๆก็จะทราบว่า ณ ตอนนี้ MSN เต็มไปด้วย SPAMS ส่งรีเควสเข้ามาขอเป็นเพื่อนเราทุกๆวันๆ และทุกๆชื่อ Contact ใน MSN จะวิ่งเข้ามาอยู่ใน Contact ภายใต้ People Hub ของคุณรวมถึงพวก SPAMS พวกนั้นด้วย

จริงๆข้อเสียตรงนี้ก็มีทางแก้ครับ ก็ต้องพลิกแพลงหลายตลบในการสร้าง Account หลอกขึ้นมานิดหน่อย แต่ผมก็มองว่าถึงผมจะแก้ไขได้ แต่ทำไมผมจะต้องมาแก้ไขอย่างนี้ด้วย ทำไมต้องบังคับในการ sync ข้อมูลที่ผมไม่ต้องการ (โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบการถูกบังคับเท่าไหร่)

เอ่ะ เขียนไปเขียนมาทำไมดูข้อด้อยข้อเสียมันเริ่มเยอะและเหมือนว่าผมยังจะเขียนต่อไปได้อีกเรื่อยๆ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเท่านี้ก็พอครับ มุมมองที่ผมเขียน ณ ตอนนี้คือเป็นมุมมองในเชิงของผู้ใช้ หรือ User ธรรมดาทั่วไปนะครับ ซึ่งหากว่าจะให้ผมเขียนเพิ่มในมุมมองของนักพัฒนา Application หรือ Developer ด้วยนี้ Post นี้ที่ผมจะเขียนคงยาวเวิ่นเว้อเลยทีเดียว

Conclusion

ก็จะสรุปนะครับอย่างที่ผมบอกไปว่าในทุกๆสิ่งนะครับไม่มีสิ่งไหนที่มันดีเลิศ Perfect มันก็จะมีจุดข้อด้อยข้อเสียคลุกเคล้ากันไป เพียงแต่ว่าถ้าให้ผมวิเคราะห์ข้อด้อยข้อเสียต่างๆเหล่านี้ บางทีมันก็เกิดจากการที่ Microsoft ไม่มีทางเลือกมากนัก ด้วยการที่ Apple & Google ได้กระโดดลงมาร่วมทำการแข่งขันในตลาด Smartphone อย่างดุเดือดและได้ก้าวผ่านข้าม Microsoft ไปแล้วหลายขุม ทำให้ Microsoft ต้องเข็น Windows Phone7 ที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ออกมาลงสู่ตลาด และอาจจะเป็นด้วยที่การเป็นบริษัทใหญ่จะก้าวจะทำอะไรทีก็อาจจะเชื่องช้าหรือว่าอาจจะมี Ego อยู่ในตัวเองสูงว่า กูคือ Microsoft นะ กูคือยักษ์ใหญ่ ใครๆ ก็ต้องใช้ของกู ทำให้เจ้าตัว Windows Phone7 ที่ออกมา ณ ปัจจุบันในมุมมองของผมนั้นมองว่ามันเป็นยังเป็น OS ที่น่าตื่นเต้นในแค่ช่วงแรกๆที่ได้เริ่มใช้ แต่เมื่อได้ใช้ไปสักพัก ด้วยการที่ตัวระบบเองค่อนข้างที่จะปิดและที่ Limitations ต่างๆอยู่พอสมควร อย่างไรก็ดีในช่วงระยะเวลาที่ผมใช้ทางไมโครซอฟก็ได้มีการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ถึง 2 ครั้ง ซึ่ง 1 ใน 2 ครั้งนั้นก็มีการเสริมความสามารถในการ Copy / Paste และความสามารถในการเปิด Application ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นอีกจุดเสียจุดหนึ่งของ Windows Phone 7 ในเฟิร์มแวร์ตัวเดิมตัวแรกที่กว่าจะเปิด Application ได้สักตัวเนี้ยมันกินเวลาหลายวินาทีในการโหลดพอสมควร ซึ่งทำให้เกิดอาการค้างๆขัดใจได้เล็กน้อยถึงปานกลาง… (อ้าวนั้นแอบบ่นอีกแล้ว :p)

iOS Android WP7 ….

 

 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ดี ผมก็มองว่าไมโครซอฟก็คงทราบดีขึ้นข้อเสียข้อด้อยของตัวเอง และพยายามที่จะปรับเปลี่ยนจูนเครื่องใหม่ให้มันดียิ่งๆขึ้นๆ และโดยส่วนตัวของผมนั้น ผมก็มองว่าแม้ว่าในตอนเริ่มต้นมันยังเป็นระบบที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่เมื่อยักษ์ตื่นแล้ว แต่ละก้าวที่ยักษ์จะเดินนั้นก็น่าสนใจและน่าศึกษายิ่งนัก โดยเฉพาะก้าวสำคัญที่ Microsoft ได้ไปจับมือกับยักษ์ตัวใหญ่อีกตัวหนึ่งซึ่งก็คือ Nokia ที่เขายอมสละทิ้งระบบ Symbian ของตัวเองทิ้งและหันมาจับมือเป็นพันธมิตรหลักและพร้อมเลือกใช้ Windows Phone7 เป็นระบบหลักที่จะใช้ในมือถือ Smartphone ของ Nokia ในอนาคต ซึ่งแน่นอนเราก็คงตอบไม่ได้ว่าอนาคตของยักษ์ 2 ตัวที่ถูก Apple & Google ก้าวข้ามผ่านไปได้นั้นเมื่อจับมือกันแล้วจะเป็นอย่างไร ดีลการจับมือร่วมกันนี้ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่ทักท้วง แต่ใครเล่าจะรู้ว่าอนาคตนั้นเป็นเช่นไร แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งละที่แม้ว่าตอนนี้ผมอาจจะขอลาจากกับเจ้า Windows Phone7 นี้ไปก่อน แต่ในอนาคตสิ้นปี 2011 นี้หรือปีหน้า เมื่อ Nokia ได้ออกมือถือที่ใช้ระบบ Windows Phone7 แล้วผมก็จะเป็นคนหนึ่งในกลุ่มคนแรกๆ ที่พร้อมที่จะเข้ามาลิ้มลองและช่วยดูว่าอนาคตของตลาด Smartphone เนี้ยจะยังมีชื่อ Nokia หรือ Microsoft อยุ่หรือไม่ ………..

 

 

 

 

 

and Hopefully… WE’RE ONLY PART to meet again with NOKIA 😉

Filed Under: Tech Tagged With: Future, Goodbye, HTC HD7, Limitation, Microsoft, Nokia, Windows Phone 7, WP7, ข้อด้อย, ข้อเสีย

รีวิว Major Movie for Nokia (Qt)

February 28, 2011 by Chaiyasit Admin 1 Comment

กลับมาเจอกันอีกแล้ว คราวนี้กว่าจะหาเวลามาเขียน Blog ได้ก็เล่นเอารากเลือดเลยทีเดียว งานเข้ากันเป็นว่าเล่น จริงๆเขียนทิ้งไว้ตั้งแต่มกราแล้วเพิ่งจะได้มีโอกาสมาจัดการให้จบ >.<! แต่คิดในแง่ดี มีงานก็ดีกว่าไม่มีงานทำจริงไหม? 🙂

มาคราวนี้ก็มี Application เจ๋งๆ มาแนะนำอีก 1 ตัว ซึ่งคิดๆว่าน่าจะเป็นอีก app นึงที่น่าจะถูกใจใครหลายๆคนและแน่นอนถูกใจผมสุดๆๆๆ (เสิร์ฟเองตบเองเลยวุ้ย) ฮา… ก็ไม่ให้เป็นที่เสียเวลาก็ขอเกริ่นแนะนำเลยละกันดีกว่า เจ้า app ตัวนี้เนี้ยเป็น app ที่สืบทอดเชื้อสายมาจาก 1 ในโปรเจคที่ทางบริษัทของผม “หัวลำโพง” ได้พัฒนาขึ้นมาบนระบบปฏิบัติการ bada OS ของ Samsung ที่มีชื่อว่า “Popcorn” และแน่นอนหากเราได้ยินคำว่าป็อปคอร์นเนี้ยนอกจากมันคือข้าวโพดคั่วที่เรามักจะนั่งกินชิวๆไปดูทีวีไป เราก็จะนึกถึงโรงภาพยนตร์และการดูหนังนั้นเอง เพราะคงไม่มีโรงภาพยนตร์ไหนที่ไม่มีป็อปคอร์นขาย จริงไหม? แทบจะเป็นของคู่กันเลยทีเดียว ^^ “Popcorn” นี้มันคือ app ที่ถูกพัฒนาไว้เพื่อสำหรับคนรักการดูหนังโดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับผู้ใช้มือถือ bada แล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “Popcorn” เพราะว่าดังระเบิดเถิดเทิงจริงๆ (ไม่ได้โม้นะ ไม่ได้โม้) อย่างไรก็ดีนะครับจากการที่เราหัวลำโพง เป็นบริษัทนักพัฒนา application แบบ cross-platforms เราก็เลยได้เริ่มทำการ port เจ้า “Popcorn” ตัวนี้ไปยัง OS อื่นๆ โดยที่ได้รับความร่วมมือกับบริษัทโรงภาพยนตร์เจ้าใหญ่ของเมืองไทยอย่าง “Major Cineplex” และยักษ์ใหญ่ในวงการมือถืออย่าง “Nokia” มาช่วยพวกเราหัวลำโพงในการพัฒนาจนท้ายที่สุดแล้วก็ได้ฤกษ์คลอด application สำหรับคนรักหนังที่รับ legacy & dna มาจากต้นแบบ Popcorn บวกกับ Features ใหม่ๆ ของ Social Media และการจองตั่วหนังภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex ออกมา โดยเจ้า application ตัวนี้จะรันอยู่บนระบบปฏิบัติการของโนเกียซึ่งมีชื่อว่า “Major Movie For (Qt)”

…

Nokia C6

คว้ามือถือ Nokia มาได้เลยครับสำหรับผมใช้รุ่น Nokia C6 …..

คว้ามาแล้วก็อย่ารีรอแล้วก็เปิดโปรแกรม Major Movie For Qt ขึ้นมา ก็จะเจอกับหน้าจอเริ่มต้นของโปรแกรมซึ่ง

…

..
….

1) 1st Impression…

แรกก็ต้องบอกเลยว่า มั่นใจและแน่นอนว่าเป็นโปรแกรมเกี่ยวกับภาพยนตร์แน่ๆ เพราะหน้าจอไปกว่าครึ่งก็จะเป็นโปสเตอร์หนังภาพยนตร์ต่างๆ ในทางด้านซ้าย โดยใช้รูปแผ่น Film เป็นสื่อกลาง ส่วนทางด้านขวาบนก็จะเป็นชื่อหนัง ไล่ลงมาก็จะเป็นปุ่มคำสั่งของตัวโปรแกรม ส่วนด้านขวาล่างก็จะเป็นโลโก้ Major Cineplex ตามด้วยปุ่ม Settings และ Exit… โปรแกรมก็ใช้สีโทนสีแดงโดยมี Background เป็นผ้าม่านในโรงหนังได้อารมณ์อยากดูหนังดีเหมือนกัน

สำหรับ Major Movie For Qt นี้สามารถปรับภาษาได้ 2 ภาษานะครับก็มีภาษาอังกฤษและแน่นอนครับภาษาบ้านเกิดเราเองภาษาไทย ตรงนี้เราสามารถเข้าไปปรับได้โดยการกดปุ่ม Settings ด้านล่างขวาครับ และในเมนู Settings ก็ยังมีปุ่ม About ก็จะแสดงรายละเอียดต่างๆของ app เช่น เวอร์ชั่น, support, และแน่นอนผู้พัฒนาโปรแกรมก็ “หัวลำโพง” นั้นเอง ขอโปรโมตหน่อย 😛

…..

…..

2) UI Experiences

มาเริ่มใช้งานกันเลยดีกว่าครับ หลักๆแล้ว UI ของตัวโปรแกรมก็ค่อนข้างที่จะสื่อวิธีของการใช้ได้ดีพอสมควร อย่างเช่นการที่จะเลือกหนังภาพยนตร์เรื่องต่างๆ เราก็ใช้วิธีการเลื่อนขึ้นลง Scroll up & down ตามแนวของ Film หนัง และระหว่างไล่เลือกหนังเรื่องต่างๆ ก็ให้อารมณ์แปลกอีกแบบนึง ก็เพราะว่าเวลาเราเลื่อนตัวโปสเตอร์ผ่านหนังแต่ละเรื่องเนี้ย ตัวโปสเตอร์จะมีการดูด Cursor หน่วงไว้นิดหน่อยเพื่อที่จะไม่ทำให้เราเลื่อนเพลินจนเลยหนังเรื่องต่างๆไป ก็เวิร์คดีนะผมว่า 😉  ส่วนตัวรายชื่อของภาพยนตร์ทางโปรแกรม Major Movie For Qt จะใช้วิธีการ Filter จากจำนวนของโรงภาพยนตร์ที่ฉายนะครับ ยิ่งฉายเยอะหลายที่และมีหลายๆโรงที่ฉายก็จะได้ Ranking เยอะ ก็จะอยู่บนสุด

3) Functions & Features

พอเราเลือกหนังที่ต้องการได้แล้ว อย่างผมก็เอานี้เลยเรื่อง “สุดเขต  สเลดเป็ด” ละกัน ทีนี้ก็มาถึงปุ่มคำสั่งซึ่งหลักๆ ก็จะมีอยู่ 3  ปุ่มด้วยกันเรียงลงมาเลยจากบนลงล่างก็จะเป็น a) ปุ่ม Synopsis,  b) ปุ่ม Trailer, และ c) ปุ่ม Ticket.. ก็ไม่ต้องรอช้าครับอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไรก็กดไปที่ ปุ่ม Synopsis เลยก็จะขึ้นหน้าจอเรื่องย่อของหนังขึ้นมาตามรูปเลยครับ เนื้อหาหลักๆก็จะเป็น Genre ว่าเป็นหนังประเภทไหน สยองขวัญ ดราม่า ขำขัน เฮฮาปาร์ตี้ อะไรก็ว่าไป ถัดลงมาก็ Cast ว่ามีพระเอกเป็นใคร บทนางเอก ดาวเด่น ดาวร้าย บทต้นไม้  ก็ว่าไปครับ และด้านล่างก็จะเป็นเรื่องย่อของหนังก็คงไม่ต้องพูดถึงครับ 😉

…..

……………

นอกจากนี้หากสังเกตุดีดีข้างใต้ Cast เราจะเห็นปุ่มโลโก้สีน้ำเงินและสีฟ้าแปะอยู่หราเลย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีก Feature นึงที่เราได้พัฒนาเพิ่มเติมเสริมขึ้นมาจากตัวต้นแบบ Popcorn นะครับเพื่อตอบโจทย์ Behaviors การ Share และ Trend ที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งอย่าง Social Media  ตรงนี้เราสามารถที่จะแชร์รายละเอียดหนัง (Synopsis) ผ่าน Social Media ของเราครับ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter และนอกจากนี้ในหน้า Synopsis ด้านล่างลงมาอีกก็จะเห็นปุ่ม Trailer ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกดูตัวอย่างหนังได้โดย Major Movie For Qt ก็จะทำการ Streaming ตัวอย่างหนังมาให้เราได้ชมกันนะครับ เน้นนะครับเป็นการดูดสดมา ^^ และปุ่ม Ticket  ก็ตามชื่อครับ เอาไว้สำหรับการจองตั๋วหนังนั้นเอง รู้อย่างงี้ก็อย่ารอช้าครับกดเข้าไปกันต่อเลย

…

……………

กดเข้ามาแล้วก็จะเจอกับหน้าจอนี้ครับ ซึ่งก็ไว้สำหรับการเลือกโรงหนังนั้นเองว่าเราจะไปดูที่โรงไหน (ก่อนจะจองคงต้องรู้ก่อนว่าจะดูที่ไหน ถูกไหม? ^^) โดยเราสามารถเลือกโดยการเลื่อนซ้ายขวาที่รูปโรงภาพยนตร์ตรงกลางได้เลยโดยภายในโปรแกรมก็จะครอบคลุมโรงภาพยนตร์ทุกโรงภายในเครือเมเจอร์ครับก็จะมี Esplanade, Major, EGV, Paragon Cineplex และอื่นๆ และทุกๆครั้งที่เราเปลี่ยนโรงหนังด้านล่างก็จะโชว์ภาพของโรงหนังแต่ละที่ด้วยเช่นกัน แอบดูไฮโซนะเนี้ย พอเราเลือกโรงหนังได้แล้วเราก็กดเข้าไปที่โลโก้ของโรงหนังได้เลยครับ ทีนี้โปรแกรมก็จะทำการลิสสาขาของโรงหนังที่เราเพิ่งเลือกไปให้ อย่างถ้าผมเลือกโรงหนัง Major ตรงนี้มันก็จะลิสสาขาที่เป็นของ Major มาทั้งหมดตามรูปเลย แต่วันนี้ผมอยากดูที่ Paragon นะครับก็กด Back ย้อนกลับมาเลือก Paragon ละกัน 😉

…

……………

4) Show Time

ที่นี้เราก็จะเข้ามาอยุ่ที่หน้า Show Time ของหนังและโรงหนังที่เราเลือกไป อย่างของผมก็จะเป็นเรื่อง “สุดเขต สเลดเป็ด” ที่ Paragon Cineplex… และแล้วก็ต้องร้อง Wow! เบาๆ นิดนึงด้วยที่ app จะแสดงหน้ารอบหนังขึ้นมาให้ในรูปแบบที่โดยส่วนตัวแล้วผมว่ามันง่ายต่อการเข้าใจมากๆ โดยด้านบนก็แสดงโปสเตอร์ขนาดจิ๋ว ชื่อหนัง โลโก้ของโรงหนังและสาขา ส่วนเนื้อหาหลักก็จะเป็นรอบหนังต่างๆ โดยเรียงตามโรงที่ฉายและรอบที่ฉาย และหากว่ารอบไหนที่เวลาผ่านพ้นไปแล้วทางโปรแกรมก็มีการ Grey Out รอบเวลานั้นออกไป พร้อมไฮไลท์รอบที่เหมาะสมให้ เรียบๆแต่ชัดเจนดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก… นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะเอียงมือถือของเรา เพื่อที่จะให้ app แสดงผลในแนวนอนได้เช่นกัน โดยการแสดงผลแบบแนวนอนนี้จะเป็นการแสดงในแบบอิงตามช่วงเวลาหรือแบบ Timeline โดยรอบหนังที่มีฉายจะถูกแสดงด้วยไอคอนของป็อปคอร์นบนเก้าอี้บนช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งเราสามารถกดดูรายละเอียดของรอบหนังได้โดยการเลื่อนซ้ายขวาๆ และกดไปที่ป็อปคอร์นแต่ละอัน 😉

…

……………

5) Ticket Booking

หลังจากที่เราแฮปปี้กับการเลือกรอบหนัง และตัดสินใจได้แล้วว่าจะดูรอบไหนเนี้ยเราก็กดเข้าไปที่เวลานั้นๆเลยเพื่อเข้าสู่หน้าจอการจองตั๋วหนัง อย่างคราวนี้ผมเลือกรอบ 16:50 ครับ 😉  พอกดเสร็จก็มีหน้า Loading ขึ้นมา ตรงนี้ก็หมายถึงเจ้า app กำลังไปติดต่อดึงข้อมูลกับ Server ของทาง Major อยู่ และก็รอไม่นานครับก็ต้องร้อง Wow! ไม่ใช่ Wow Cali นะครับ นั้นจะเจ๊งแล้ว >.<! ….  ที่เราจะเห็นก็จะเป็นแผนผังที่นั่งจริงๆ ของโรงภาพยนตร์และจากตรงนี้เราสามารถที่จะ Zoom ใช้นิ้วซูมเข้าไปเลยครับและเลือกที่นั่งตรงไหนก็ได้ครับที่มันว่างอยู่ ถ้าที่นั่งที่มีรูปคนอยู่แสดงว่าได้ถูกจองไว้แล้วและนอกจากรายละเอียดรอบของหนังแล้ว มุมด้านขวาก็จะมีส่วนบอกลักษณะของที่นั่งด้วยเช่น จะมีที่นั่งสีม่วงซึ่งราคา 180 บาท แล้วก็ที่นั่งสีแดงที่ราคา 200 บาท …  หลังจากกดเลือกที่นั่ง ก็จะมีเครื่องหมาย “ถูก” ติ๊กขึ้นมาและเราก็สามารถที่จะกด “ยืนยันการเลือกที่นั่ง” เพื่อเข้าสู่หน้าจอการยืนยันโดยที่เราต้องใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือและอีเมล์ของเรา เพื่อที่ทางเซอเวอร์จะทำการส่ง Reservation Code หรือโค้ดที่เอาไว้รับตั๋วนั้นเองมาให้เราโดยจะส่งมา 2 ทางก็คือ 1) Sms และ 2) อีเมล์

นี้ครับคือตัวอย่างหน้าจอหลังจากที่เราทำการจองตั๋วหนังเสร็จเรียบร้อย เราก็นำหมายเลขการจองนี้ “9702” ไปยืนยันที่เคาเตอร์ของโรงภาพยนตร์ (และควรจะไปถึงก่อนเวลาหนังฉาย 30 นาทีเพื่อรับและจ่ายตังค่่าบัตรนะครับ) 😉

สำหรับ Major Movie For Qt นี้หากไม่แน่ใจว่ามีมือถือ Nokia รุ่นไหนที่ Support บ้างก็เช็คได้จากเว็บนี้เลยครับ Nokia Qt ซึ่งจะครอบคลุมไปรุ่นยอดฮิตยอดนิยมอย่าง Nokia 5800, N97, C6, C7 และรุ่นอื่นๆครับ

ใครได้ทดลองใช้แล้วมี Feedbacks อย่างไร มี Recommendations ไหมก็ทิ้งความเห็นมาได้เลยนะครับ 😉

Filed Under: Tech Tagged With: HLPTH, Major Movie, Nokia, Popcorn, Qt, ดูหนัง, หัวลำโพง

Primary Sidebar

LIVE ONCE

Search

Recent Posts

  • คุ้มไหม? กับสิทธิประโยชน์บัตร American Express Platinum ปี 2018 กับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท
  • Wat Mahathat Worawihan in 10 Photos (Ratchaburi)
  • มากิน Haidilao Steamboat สุกี้สัญชาติจีน การบริการหลุดโลก 313@Somerset
  • X2 River Kwai Kanchanaburi In The Morning Photo Gallery
  • ประเดิม 10 km แรกกับ Nike Zoom Fly เปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19

Copyright © 2023 · Metro Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in