• Skip to primary navigation
  • Skip to main content
  • Skip to primary sidebar

LIVE ONCE

Only Live Once, Smart Life, Spend Wisely - dogs, travel, tech, running and freedom

  • Travel
  • LifeStyle
  • Sport
  • Book
  • Tech
You are here: Home / Archives for ipad2

ipad2

Nexxone Capri 2 : iPad2 case

May 28, 2012 by Chaiyasit Admin 1 Comment

–

หลังจากได้ New iPad สีดำมาอย่างไม่คาดฝัน ( ต้องขอบพระคุณคุณพี่ @chaiyosart ที่ซื้อกลับมาเป็นของฝากให้จากประเทศสหรัฐอเมริกา ) และด้วยเหตุที่ได้เครื่องมาก่อนเครื่องศูนย์จะเข้า ทำให้ตอนนั้นค่อนข้างยากลำบากในการหาเคส New iPad ดีดีสักอันมาใช้งาน เดินเข้าไป iStudio สาขานู้นๆนี่ๆ ก็เจอแต่เคสที่ดีไซน์มาสำหรับ iPad2 ส่วนที่มาบุญครองมีขายก็เป็นเคสของจีนที่เราก็ไม่ได้อยากได้แบบนั้นมาใช้ เพราะยังไม่ถูกใจแล้วไม่อยากจะเปลี่ยนเคสบ่อยๆ ( แอบเบื่อเลือกนั้นเอง )

และอยู่มาวันหนึ่งเราก็ได้เสียง DM สวรรค์จากคุณพี่นู๋ดี @9LivesNoodee ว่า “เนี้ยพี่มีเคสพรีวิวเหลือ สนใจไหม” ถ้าสนใจก็บอกพี่เขาได้เลย…

แหนะ อ้อยมาจ่ออยู่ปากช้างแล้วจะเหลือหรอ?

งั๊บบบบบ!!!

–

NeXXone Capri2

–

เคส iPad2 ของ Nexxone Capri2 ก็หลุดลอดมาอยู่ในกำมือของเราอย่างเนียนๆ และแว๊บแรกเห็นเราก็แอบชอบความดุดัน เรียบร้อย ดูมีสไตล์อย่างเรียบง่าย และเหมาะสำหรับการเดินพกถือไปพรีเซ้นงานหน้าชั้นหรือในที่ประชุม ให้อารมณ์ดูดีมีการศึกษาทำนองนั้น

นี้เรามาซูมดูใกล้ๆหน่อยดีกว่าว่าวัสดุนี้มันใช่หนังอย่างที่ว่าหรือเปล่า ( พูดจริงๆ ดูไม่เป็น ) และจะได้แอบโชว์ยี่ห้อด้วย เนียนไหม?

–

Nexxone Capri2 : ZOOM

–

บางคนอาจจะงงๆ ว่าเอ่ะ ไหนว่าได้ New iPad มา แล้วทำไมถึงเอาเคสของ iPad2 มาใช้ ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า New iPad เนี้ยจะมีความหนามากกว่า iPad2 อยู่ราวๆ 0.6 มิลลิเมตร และตอนแรกก็แอบคิดเหมือนกันว่ามันจะใส่ได้จริงๆหรอ แต่ก็เห็นอย่างภาพนะว่าใส่ได้ อาจจะออกแนวบังคับขืนใจนิดหน่อยในช่วงแรกในการยัดเข้าไป แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเหนือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่ ใส่ไปสักพักมันก็ไม่ฝืดล่ะ เอ่ะ o_O ….

เปลี่ยนเรื่องมาดูมุมด้านหลังของเคสดีกว่า ว่าหล่อเข้ม สาวมั่นแค่ไหน

–

Nexxone Capri2 : Rear View

–

หลังจากดูมุมด้านหลังของเคสแล้ว เราคงสังเกตุเห็นว่า แม้เคสมันจะไม่ได้ครอบคลุมทุกส่วนของตัว iPad แต่มุมสำคัญๆ ทุกมุมนั้นมีส่วนขอบของเคสนั้นป้องกันอยู่ 4 มุมหลัก และ 2 มุมบนและล่าง ส่วนด้านซ้ายและขวาก็มีขอบขึ้นมา ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่า ถ้าหากเราเผลอทำตกไม่ว่าจะท่าตีลังกา หรือตีโค้งยังไง iPad เราก็จะปลอดภัยจากรอยบุบและรอยถลอกได้ค่อนข้างแน่นอน ( ใช้มายังไม่บุบไม่ถลอกเลย )

คราวนี้มาดูมุมบนและมุมล่าง ดูความสะดวกในการใช้งานช่องต่างๆ ของ iPad กัน

–

Nexxone Capri2 : Top View

–

มุมด้านบนจะเห็นว่าตัว Nexxone Capri2 ถูกดีไซน์ให้สามารถใช้งานจาก (ซ้าย) ช่องเสียบหูฟัง มาที่ (ขวา) ปุ่มเปิดปิด On/Off รวมไปถึง ปุ่ม Volume และ ที่เลื่อนเอนกประสงค์ Toggle Mute / Vibrate ได้สะดวกสบายมาก รวมไปถึงช่องของกล้องถ่ายรูปก็สามารถใช้งานได้ทันทีไม่จำเป็นตัวขยับตัวเคสขึ้นหรือลงเหมือนกับเคสของ Moshi Concerti

ที่นี้มาดูมุมด้านล่างของเคสกันบ้าง

–

Nexxone Capri2 : Bottom View

–

ส่วนด้านมุมล่างสุดของเคส ชัดเจนมากสำหรับตรงกลางช่องสำหรับต่อสายชาร์ตหรือสาย Sync แล้วด้านมุม (ซ้าย) สำหรับรูลำโพง  … โอ้ย ชอบแหะ

หลังจากดูครบหมดแล้วคราวนี้มาดูเวลาใช้งานกันบ้าง

–

Nexxone Capri2 : Open Case

–

การเปิดเคสก็เปิดเหมือนเปิดหนังสือนะ เปิดจากขวาไปซ้ายโดยใช้นิ้วดันตัวล็อค มันเล็กน้อยในการเปิด และความรู้สึกในการเปิดปิดเคส Nexxone Capri2 นั้นก็ต้องบอกเลยว่า รู้สึกแข็งแรงทนทานและราบรื่นมากและที่สำคัญตัวแม่เหล็กที่เอาไว้เปิดปิดหน้าจออัตโนมัติ Smart Cover ก็สามารถใช้งานกับตัว New iPad ได้นะครับสำหรับเคสนี้ ส่วนวัสดุด้านในก็จะเป็นเหมือนขนนุ่มๆๆ สักอย่าง ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าคืออะไร แต่มันก็สามารถป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad ของเราได้ดีเลยล่ะ

หากสังเหตุกันให้ดี เราจะเห็นว่าตัวล็อค iPad ของ Nexxone Capri2 นี้จะมีด้วยกัน 6 จุด บนขวา กลางบน และบนซ้าย และด้านล่างก็เป็นเช่นเดียวกัน ซึ่ง 6 จุดนี้ก็เป็นตัวขอบเอาไว้ป้องกันมุมต่างๆของ iPad ด้วย ซึ่งสำหรับ New iPad นั้นเราไม่สามารถล็อคเครื่องกับจุดบนซ้ายและล่างซ้ายได้…. เพราะว่าตัวเครื่องมันหนากว่า iPad2 นั้นเอง! …..

ซึ่งตรงนี้ผมได้ลองเอา iPad2 ของคุณแฟนมาทดลองใส่เคส Nexxone Capri2 ตัวนี้ดูก็ปรากฏว่าสามารถใส่เครื่องได้ครบทั้ง 6 ตัวล็อค โดยใช้นิ้วดันตัว iPad เข้ากับมุมบนซ้ายและล่างซ้ายลงไปได้ เข้าล็อคพอดี ในขณะนี้ New iPad ยัดไม่ลงนะครับ….

อาจจะฟังดูแย่… แต่หารู้ไม่ว่าเวลาใช้งานจริงแล้ว ผมกลับแฮปปี้ที่จะไม่จำเป็นต้องล็อค iPad ของเราไว้กับตัวล็อคครบทุกตัวนะ ด้วยเหตุผลอันใดไว้จะอธิบายต่อถึงการใช้นะ

การใช้งาน Nexxone Capri2 นี้เราสามารถปรับมุมมองได้ถึง 4 ระดับตามนี้

–

Nexxone Capri2 : 4 Angles Stand

 –

ซึ่งส่วนใหญ่จากการใช้งานในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผมชอบใช้แบบที่ 3 มากที่สุดเลยไม่ว่าจะนอนบนเตียงเล่น นั่งที่โต๊ะทำงาน หรือที่โต๊ะกินข้าว …. และสังเกตุไหมว่าเวลาเราจะตั้งเจ้า iPad ของเราโดยใช้เคส Nexxone Capri2 เนี้ย เราต้องปลดล็อคตัวล็อคด้านบนซ้ายและด้านล่างซ้ายออก เพื่อจะนำขอบตรงนั้นของ iPad มาตั้งนั้นเอง ซึ่งมันเป็น 2 จุดที่ New iPad ไม่สามารถยัดลงไปได้…. ทำให้เวลาใช้งานจริงๆเนี้ยมันช่างสะดวกสบายมากเลย เพราะตอนที่ผมลองเอา iPad2 มาใช้นั้นค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อยที่ทุกครั้งที่ผมจะตั้ง iPad เนี้ยผมต้องมานั่งแกะมุม 2 มุมนี้ออกซึ่งมันต้องใช้แรงพอสมควร….

และสุดท้ายนี้ขอฝากไว้นิดว่านอกจากการตั้ง iPad 4 มุมแล้วเนี้ย เจ้าเคส Nexxone Capri2 ยังมีอีก 1 ไม้ตายที่ผมก็ชอบใช้งานเช่นกัน คือการวางแนบกับโต๊ะโดยทำมุมเล็กน้อย เพื่อเหมาะกับการพิมพ์ Virtual Keyboard บน iPad นั้นเอง

–

Nexxone Capri2 : Typing Angle

 –

สรุปว่า

เคส Nexxone Capri2 เนี้ยแม้ว่ามันจะถูกดีไซน์ออกมาให้ใช้งานได้กับ iPad2 ผมกลับไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่นะกับการใช้งานกับ iPad2 ด้วยเหตุที่ว่าผมใช้งานการตั้ง iPad เป็นแบบแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง แล้วจะต้องเสียเวลามานั่งแกะมุมตัวล็อคออก ซึ่งมันต้องใช้แรงพอสมควรแบบเบาๆ ในขณะที่หาก เคส Nexxone Capri2 ตัวนี้นำมาใช้งานกับ New iPad จะไม่พบปัญหาตรงนี้เลย และแม้ว่าจะใช้ตัวล็อคแค่ 4 จุดจากทั้งหมด 6 จุด มันก็พอเพียงแล้วที่จะไม่ทำให้ New iPad ผมหลุดหรือหล่นออกจากเคส อาจจะเป็นเพราะที่ว่าใส่เข้าไปแล้วมันจะฟิตกว่าทั่วไปเพราะว่า New iPad มันหนากว่า iPad2 หนิ….

ผมขอฟันธงด้วยประสบการณ์การใช้งานของผมว่า 

==Nexxone Capri 2 ; iPad2 case which suits more on New iPad==

Filed Under: Tech Tagged With: ipad2, Nexxone Capri2

Apple To Rule The World ก้าวสำคัญของ Apple ที่จะครองโลกด้วย iBooks 2

January 24, 2012 by Chaiyasit Admin Leave a Comment

.

.

เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2012 ที่ Apple ได้กระโดดเข้ามาร่วมวงในตลาด e-textbooks (ตำราเรียน) โดยจับมือกับ 3 ค่ายหนังสือเรียนยักษ์ใหญ่จาก

1) Pearson PLC
2) McGlaw-Hill Cos Inc
3) Houghton Mifflin Harcourt

ซึ่งแค่ 3 สำนักพิมพ์นี้ก็ยึดตลาด Textbooks ในอเมริกาไปกว่า 90% แล้ว!!!

และการเข้าแจมตลาด e-book นี้ Apple มี Strategy โดยเน้นไปที่ textbooks เราจะเรียกว่า e-textbooks นะครับเพราะว่ารูปแบบการลุยตลาดจะเป็นอยู่บน  iPad นั้นเอง โดย Apple จะสร้าง Platform ขึ้นมารองรับโดยผ่าน iBooks 2 App ที่สามารถดาวโหลดได้ฟรีผ่าน Apple Store

การใช้งาน iBooks 2 นี้ก็ใช้ง่ายมาก เพียงกดเข้า App แล้วเลือกซื้อหนังสือหลังจากกดซื้อแล้ว เจ้าหนังสือนี้ก็จะถูกส่งผ่านแบบ OTA (Over the air) เข้ามาที่ iPad ของเราและพร้อมใช้งานได้โดยทันที

เบื้องต้นตลาด e-textbooks นี้นักวิเคราะห์ทั้งหลายประเมินว่ามีมูลค่าตลาดทั้งสิ้นอยู่ที่ 8,000 ล้านเหรียญ (USD) หรือราวๆ 24,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง

แล้วจากข่าวนี้อะไรละที่ทำให้ผมคิดหรือตื่นตระหนกไปเองว่า Apple กำลังเดินก้าวต่อไปที่สำคัญในการจะครองโลกอย่างแยบยล…

.

ปัจจุบันตอนนี้ iPhone ก็คือ Smartphone เครื่องๆหนึ่งที่คนซื้อเพราะว่ามันใช้งานง่าย, มันมี Design, มันเป็น Lifestyle, มันเป็นสิ่งประจำวัน รวมไปถึงคนซื้อเพราะชอบและหลงในศาสดา Steve Jobs และมนต์ขลังของ Apple แต่…. คนไม่ได้ซื้อเพราะว่ามันเป็นสิ่งจำเป็น

ตรงนี้และจุดนี้ทำให้ Steve Jobs เมื่อปีก่อนมองเห็นว่า ทำไมเราไม่ทำให้ iPad มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเสียล่ะ แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนทั่วไป ควรจะเริ่มต้นจากจุดไหนดี….

และจากบทสัมพาษท์ของ Philip Schiller (Senior Vice President ของ Apple) เขามองว่า

.

“ปัจจุบันระบบการศึกษาอยู่ในยุคมืด และหนังสือและตำราเรียนมันทั้งใหญ่และหนักและเป็นอุปสรรคหนึ่งในการเรียนรู้”

.

และแน่นอนว่าการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็น ตรงนี้มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ล้ำลึกมาก เป็นกลยุทธ์ที่บุกตลาดรากหญ้าแบบจริงจัง และเมื่อมองจากจำนวนนักเรียนในระบบของอเมริกาที่มีอยู่ถึง 55.5 ล้านคน จาก 130,00 โรงเรียน แน่นอนว่าจำนวน iPad ที่เป็นฐานตลาดอยู่นั้นมีเพียง 2.7% เท่านั้นเองและยังเป็นตลาด Blue Ocean ที่ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก จึงเป็นโอกาสที่ Apple จะได้บุกเพื่อไปยึดหัวหาดและครอบครองตลาดได้โดยไม่ยากเย็น

.

.

ตรงนี้หลายคนอาจจะค้านว่า Amazon Kindle ไงที่เป็นเจ้าตลาด Ebooks อยู่ในปัจจุบัน ไม่ผิดครับเพียงแต่ว่ามันคือ Ebooks ที่ไม่ใช่ E-textbooks… ด้วย Limitations ที่ Amazon มีนั้นคือ Limitations เกี่ยวกับ Responsiveness และ Interaction ของ Kindle Device ที่เหมาะสมเพียงแค่ใช้ในการอ่าน Content ต่างๆ ที่ไม่หวือหวา เช่น นวลนิยาย นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และอื่น ขณะที่ iPad ของ Apple นั้นสามารถที่จะแสดงผล Voice, Video, Graphical Contents, Effects, อะไรต่างๆ ที่ทำให้เนื้อหาการเรียนรู้น่าสนใจ และที่แน่นอนความเร็วในการ Responsive รวมไปถึงความสามารถด้าน Touchscreen ที่ไม่เป็นรองใครก็เป็นอีก Advantage Edges ที่ Amazon Kindle สู้ไม่ได้

ซึ่งการบุกตลาดการศึกษาและหวังที่จะให้ iPad เป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษานั้น หากว่า Apple สามารถทำได้ขึ้นมานั้น ผมล่ะไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จากอุปกรณ์ Gadget ที่เป็นสิ่งไม่จำเป็น ก็จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นโดยทันที และฐานผู้ใช้ที่ Apple จะได้มาจากจุดนี้ก็จะเป็นเยาวชนของชาติ นักเรียน นักศึกษา จำนวน App และจำนวน Textbook รวมไปถึง Contents อะไรต่างๆนาๆ ก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบ Ecosystem ของ iOS ในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับ Apple

และแน่นอนระบบการศึกษาของอเมริกานั้นเป็นแม่แบบ ให้ระบบการศึกษาในหลายๆประเทศทั่วโลก หากว่า iPad สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาในอเมริกาได้แล้ว ประเทศต่างๆก็ย่อมที่จะก็อปปี้และ Develop ระบบนั้นมาใช้งานในประเทศของตนเอง จากตลาดภายในประเทศก็จะกระจายสู่ตลาดโลกในทันใด

…

ที่นี้ผมจะพูดถึงความเป็นไปได้เช่น Opportunities และ Limitations เกี่ยวกับเรื่องนี้

…

Opportunities

…

ประเด็นแรก เขาประเมินว่าปัจจุบันนี้มี iPad ที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษาอยู่ราวๆ 1.5 ล้านเครื่อง และมี App ที่เกี่ยวกับการศึกษาอยู่ใน Apple Store ราวๆ  20,000 apps และขอเน้นว่าตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นโดย Demand และ Users Driven ที่ Apple ไม่ได้ลงทุนทางด้านนี้สักแดงเดียว Apple ไม่ได้จ้างบริษัทไหนให้พัฒนา Educational Apps ออกมาสู่ตลาด และ Apple ไม่ได้ทำการตลาด Marketing ด้านนี้ด้วยซ้ำ

คำถามก็คือ ถ้าเกิดว่า Apple ตัดสินใจลุยตลาดด้าน Education Industry บุกโรงเรียน High Schools ต่างๆ อย่างเต็ม 100% ตลาดมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญจะตอบรับเช่นไร ?

.

ประเด็นที่สอง ราคาหนังสือ Textbook โดยเฉลี่ยในระดับ High School หรือ K-12 ของอเมริกาอยู่ที่ราวๆ $75 ต่อเล่มและมีระยะเวลาใช้งานต่อเล่มอยู่ที่ราวๆ 5  ปี ขณะที่หากเทียบกับราคาหนังสือต่อเล่มบน iBooks 2 นี้จะตกอยู่ที่ราคาต่อเล่มไม่เกิน $15 และอย่าลืมว่า App นึงสามารถแชร์ผ่านเครื่องได้ 5 Devices  ฉะนั้นพี่ๆน้องๆ ก็สามารถใช้ร่วมกันได้

(ประเด็นนี้ยังไม่ได้ลองนะครับ ว่า Apple มีล็อคตรงนี้ไว้หรือเปล่าใน iBooks 2)

ราคาที่ $75 เทียบกับ $15 ต่อเล่ม และนักเรียนต่างๆ ไม่จำเป็นต้องแบกหนังสือเล่มหนาๆ หนักๆ เดินไปมาตามห้องเรียนต่างๆ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับนักเรียนมากๆ ทั้งในด้านการประหยัดค่าใช้จ่ายและความสะดวกสบายในการเดินทาง

คำถามก็คือ $15 นี้มันคุ้มไหม นักเรียนนักศึกษาพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนนี้ไหม

…..

ประเด็นที่สาม จะเกี่ยวกับ Contents ว่าจะครอบคลุมตำราเรียนได้ขนาดไหน อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ข้างบนว่า Apple ได้จับมือเป็น Partner กับ 3 สำนักพิมพ์ใหญ่ของอเมริกาที่ครองตลาดตำราเรียนอยู่ถึง 90% และสำนักพิมพ์ต่างๆเหล่านี้กำลังจะปล่อย E-textbooks เวอชั่นของวิชาต่างๆเช่น Algebra, ฟิสิกส์, เคมี, Geometry, Biology และอื่นๆ รวมไปถึง DK Publishing ที่ล่าสุดก็กำลังจะปล่อยหนังสือต่างๆ สำหรับเด็กเล็ก เช่น My First ABC, Mammals, และเล่มอื่นๆอีก

.

.

หาก Apple สามารถที่จะสร้างดีลที่ Win-Win ให้กับ Partnership เหล่านี้ได้ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้นเพราะว่าจากข่าวที่ได้ติดตามอยู่นั้น Apple จะขอแชร์ส่วนแบ่งจากการขายหนังสืออยู่ที่ 30% อีก 70% ที่เหลือ ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากระเป๋าสำนักพิมพ์เหล่านี้เต็มๆหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น่าจะทำให้สำนักพิมพ์เหล่านี้พอใจ

….

Limitations

….

แน่นอนเมื่อมันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ก็ต้องมีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา

ประเด็นแรก คือ ราคาของ iPad ที่ปัจจุบันราคาต่ำสุดอยู่ที่ $499  หรือราวๆ 15,000บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ใช่ทุกคนสามารถหาซื้อได้ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอเมริกาในปัจจุบันที่ย่ำแย่ซึ่งมีผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาลและเงินในกระเป๋าของประชาชน

ประเด็นสอง ละ ความพร้อมของระบบการศึกษาในอเมริกา ว่ามีความพร้อมเพียงพอต่อการใช้เทคโนโลนีต่างๆเข้ามาในการเรียนการสอนหรือเปล่า รวมไปถึงบุคคลากรด้วยเช่นกัน

ประเด็นที่สาม ก็คือ ความจุของ iPad นั้นเพียงพอต่อ e-textbooks หรือไม่ เพราะโดยเฉลี่ยแล้วขนาดไฟล์ของหนังสือ e-textbooks หนึ่งเล่มนั้นอยู่ที่ 1 GB ฉะนั้นหากรุ่นต่ำสุดของ iPad ก็คือ 16GB ก็สามารถจุหนังสือได้ราวๆเพียง 13-14 เล่มเท่านั้นเอง

.

Interesting Update

หลังจากการเปิดตัว iBooks 2 แค่ 3 วัน ยอดดาวโหลด e-textbooks นั้นอยู่ที่ 350,000 ครั้ง รวมไปถึงยอดการดาวโหลดโปรแกรมสร้าง iBooks Author อยู่ที่ 95,000 ครั้ง

.

References

http://www.reuters.com/article/2012/01/19/us-apple-education-idUSTRE80I1EX20120119 : Apple jumps into digital textbooks fray

http://www.reuters.com/article/2012/01/19/idUS316729706320120119 : Apple to invade schools, Takes Aim At Textbook Market

http://gizmodo.com/5877512/apples-ibook-2-textbooks-arrive-today-for-15 : Apple’s iBooks 2 Textbooks Arrive Today for $15

http://www.ibtimes.com/articles/284898/20120120/apple-s-ibook-2-why-american-education.htm : Why the American Education System Isn’t Ready for the e-Textbooks Strategy

http://www.ibtimes.com/articles/286274/20120123/apple-ibooks-2-users-downloaded-350k-ipad.htm : Apple iBooks 2, Why Users Downloaded 350K in 3 Days

Filed Under: Tech Tagged With: amazon kindle, apple, dark ages, e-book, e-textbook, education, houghton, ibooks author, ibooks2, ipad, ipad2, mcglaw-hill, pearson

Primary Sidebar

LIVE ONCE

Search

Recent Posts

  • คุ้มไหม? กับสิทธิประโยชน์บัตร American Express Platinum ปี 2018 กับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาท
  • Wat Mahathat Worawihan in 10 Photos (Ratchaburi)
  • มากิน Haidilao Steamboat สุกี้สัญชาติจีน การบริการหลุดโลก 313@Somerset
  • X2 River Kwai Kanchanaburi In The Morning Photo Gallery
  • ประเดิม 10 km แรกกับ Nike Zoom Fly เปรียบเทียบกับ Asics Nimbus 19

Copyright © 2023 · Metro Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in