บัตร American Express Platinum บัตรชาร์จการ์ดตัวท็อปสำหรับนักเดินทางตัวจริงของ American Express ที่ต้องได้รับการเชิญเท่านั้นถึงจะมีสิทธิสมัครได้ นอกจากนี้ก็มาพร้อมค่าสมาชิกรายปี 35,000 บาท ค่าสมาชิกรายปีสูงแบบนี้ หลายคนอาจจะส่ายหน้า และพูดว่าบัตรใบอื่นยังยกเว้นค่าธรรมเนียมได้เลยถ้ายอดถึงเกณฑ์ แต่ทำไมบัตร Amex Platinum ใบนี้มันถึงยกเว้นไม่ได้นะ ถ้าต้องจ่ายเต็ม 35,000 บาท มันจะคุ้มมั๊ย? เราจะมาวิเคราะห์และเจาะลึกถึงสิทธิประโยชน์ สิทธิพิเศษ ของเจ้าบัตรนี้ว่ามันมีอะไรบ้างมาดูกัน
เริ่มต้นด้วยโปรโมชั่นสมัครบัตร Welcome Offer สำหรับปี 2018 ของทาง American Express Platinum ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษอยู่ 2 ต่อ
ต่อที่หนึ่ง Welcome Offer Benefits : เมื่อสมัครบัตรและมียอดใช้จ่ายครบ 300,000 บาทแรกภายใน 3 เดือน เราสามารถเลือกรับ
• กระเป๋า Rimowa รุ่น Flight Cabin Multiwheel มูลค่า 34,000 บาท (ราคาที่ยุโรป €539 หรือประมาณ 21,000 บาท) หรือเลือกรับ
• Membership Awards 82,5000 แต้ม (แลกเป็น ROP ได้ 55,000 ไมล์)
สำหรับกระเป๋า Rimowa รุ่นนี้ Flight Cabin Multiwheel ขนาด 35 ลิตร ราคาขายที่ยุโรปอยู่ราวๆ 21,000 บาท (€539) ก็น่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากได้กระเป๋าใบใหม่เก๋ๆ หรือถ้ามีแล้ว อยากได้เป็น Membership Awards ก็น่าสนใจ เพราะสามารถนำไปแลกเป็น ROP ได้ 55,000 ไมล์ (บวกเพิ่มอีก 25,000 ไมล์ก็แลกตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจไป-กลับเที่ยวญี่ปุ่น 1 ที่นั่งได้แล้วนะ)
ต่อที่สอง Welcome Offer Benefits : คือถ้าเรายังมียอดใช้จ่ายเพิ่มอีก 300,000 บาทจากต่อแรก เราก็จะได้โบนัส Membership Awards เพิ่มพิเศษ 15,000 แต้ม รวมกับต่อแรกจะได้ Membership Awards รวม 97,500 แต้ม (แลกเป็น ROP ได้ 65,000 ไมล์)
สรุปเฉพาะ Welcome Offer Benefits ก่อนว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ค่อนข้างดี จ่ายค่ารายปี 35,000 บาท และใช้จ่ายผ่านบัตรถึง 300,000 บาทในต่อแรก และอีก 300,000 บาทในต่อที่สอง ก็จะสรุปออกมาได้มูลค่าเฉพาะ Welcome Offers ตามนี้แยกออกเป็น 3 ตัวเลือกตามนี้
• Rimowa (21,000 บาท) + 15,000 แต้ม Membership Awards (2,250 บาท) หรือ
• 97,500 แต้ม Memberships Awards (14,625 บาท), หรือ
• 65,000 ไมล์ ROP (53,950 บาท)
**เราตีมูลค่า Memberships Awards อยู่ที่ 0.15 บาท/แต้ม และ ROP อยู่ที่ 0.83 บาท/ไมล์
คราวนี้เรามาวิเคราะห์และเจาะลึกกันต่อสิทธิประโยชน์ของตัวบัตร American Express Platinum กันว่าจะของปี 2018 จะคุ้มค่ากับค่ารายปี 35,000 บาทหรือไม่
ซื้อ 1 แถม 1 บัตรโดยสารชั้นธุจกิจของการบินไทย round-trip ผ่าน Platinum Travel Service จากประเทศไทยไป Hong Kong, Singapore, Malaysia, Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam
ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่โดนใจคนไทย คำว่าซื้อ 1 แถม 1 ได้เห็นที่ไหนมีตาลุกวาวได้ความสนใจไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่ Route เหล่านี้ครอบคลุมแค่เพื่อนบ้านใกล้ๆ บินไม่เกิน 3 ชมก็ถึงที่หมายแล้ว อย่างฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งการนั่ง Economy ไม่ได้โหดร้ายอะไรมาก
ส่วนค่าเสียหาย อย่างบัตรโดยสารการบินไทยชั้นธุรกิจไปฮ่องกง หรือสิงคโปร์ราคาจะอยู่ที่สองหมื่นปลายๆ รวมค่าภาษีอะไรแล้วก็ประมาณ 28,000 บาท ซื้อ 1 แถม 1 จะเฉลี่ยใบละ 14,000 บาท ซึ่งเทียบกับบัตรโดยสารชั้น Economy ของการบินไทยจะอยู่ที่ราวๆ 10,000 บาทต่อคน
ฉะนั้นสิทธิพิเศษนี้ จะคุ้มค่ามากๆ ถ้าหากว่า Lifestyle เราเป็นนักเดินทาง และเดินทางด้วยชั้นธุรกิจเป็นประจำ ถ้าหากว่าเราชอบเดินทางแต่เป็นสายประหยัด อาจจะต้องคิดเยอะหน่อย ว่าจะยอมจ่ายเพิ่ม เพื่อความพรีเมี่ยมในการเดินทาง (ใกล้ๆ) ไหม
ฉะนั้นมูลค่าของสิทธิพิเศษนี้เราขอตีให้ 14,000 บาท/ครั้ง (ปีนึงสามารถใช้กี่ครั้งก็ได้)
สิทธิประโยชน์บริการห้องรับรองพิเศษทั่วโลก (Lounge Access) สิทธิประโยชน์นี้พูดเลยว่าเรารักมาก อำนวยความสะดวกให้กับการเดินทาง มีที่ให้นั่งทำงาน มีของว่างให้กิน หรือแม้กระทั่งห้องอาบน้ำให้ใช้ ทีนี้ความโหดของบัตร Amex Platinum คือ เขามีพาร์ทเนอร์เยอะมาก เรียกว่าเป็น Collection เลยก็ได้ งั้นเรามาดูกันว่า Lounge ต่างๆใน Collection ของ American Express มีของค่ายไหนบ้าง
• Priority Card ← คุ้นเคยกันดี เครือข่าย Lounge ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 700 โลเคชั่นใน 123 ประเทศ บัตรเครดิตพรีเมี่ยมส่วนใหญ่มักจะให้ Priority Pass ใบนี้และแน่นอน Amex Plat ก็ไม่พลาดนะจ๊ะ
• Centurion ← Lounge เครือข่ายส่วนตัวของ American Express เหมาะมากสำหรับคนที่เดินทางไป USA บ่อยๆ เพราะครอบคลุมแทบจะทุกเมืองใหญ่ๆ เช่น LA, Dallas, SF, NY, Miami, Houston, Seattle, Philadelphia และล่าสุดปลายปี 2017 เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ Hong Kong ด้วยนะ
• Delta Sky Club ← สามารถเข้า Lounge ที่เป็นเครือข่ายและพาร์ทเนอร์ของสายการบิน Delta ถ้าที่สุวรรณภูมิ ก็สามารถใช้เข้า Lounge ของ Korean Airlines, Air France, China Airlines ได้
• Airspace ← สามารถใช้ Lounge ที่ JFK, New York
• Escape Lounge ← เป็น Lounge เครือข่าย USA จะเน้นเป็นสนามบินเมืองรองๆ เช่น Minneapolis, Oakland, Bradley, และ Reno Tahoe
ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆ ปกติแค่บัตร Priority Pass ใบเดียวก็โอเคแล้วนะ แต่นี่ให้เพิ่มมาอีก 4-5 ใบ ให้เลือกใช้กันไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งใบที่ทาง Amex ให้เพิ่มขึ้นมาก็จะเน้นหนักไปที่โซนอเมริกาซะส่วนใหญ่ ฉะนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหน เดินทางบ่อยโดยเฉพาะประเทศอเมริกา เราฟันธงเลยว่าคุ้มแน่นอน
มูลค่าของสิทธิพิเศษ Lounge Access มาคำนวนจริงๆ ถือว่าสูงมากนะ
• Priority Pass – ราคาต่อปี $399 หรือประมาณ 11,970 บาท
• Centurion – เป็น Lounge Network ของ Amex เลยไม่ได้มีราคาเป็นรายปี แต่ Amex เคยคิดค่าเข้าคนละ $50 สำหรับ Non-Platinum Member ฉะนั้นก็ขอคิดเฉลี่ยว่าปีนึงใช้สัก 3 ครั้งละกัน เราเลยตีมูลค่าให้ $150 หรือราว 4,500 บาท
• Delta Sky Club – ราคาต่อปีอยู่ที่ $495 หรือประมาณ 14,850 บาท
• Airspace และ Escape Lounge – ไม่มีราคาต่อปี มีแต่รายครั้ง ครั้งนึงจะอยู่ที่ $20-$40 ฉะนั้นเลยขอตีมูลค่าที่ $40 ก็พอหรือประมาณ 1,200 บาท
รวมมูลค่า 11,970 + 4,500 + 14,850 + 1,200 ทั้งหมดประมาณ 32,520 บาท!
สิทธิพิเศษอัพเกรดสถานะสมาชิกของเครือโรงแรม 5 ดาวต่างๆ เป็นอีก 1 สิทธิพิเศษที่เจ๋งมากๆ เพราะปกติการจะได้สถานะสมาชิกสูงขึ้นระดับ Gold ยกตัวอย่างของเครือ Marriott (ใช้ SPG และ Status Match เอานะ) เราต้องเข้าพักถึง 50 คืนถึงจะได้รับสถานะเป็น Gold Elite ซึ่งจะมีสิทธิประโยชน์เจ๋งๆ หลายๆอย่างเช่น
• ฟรีอาหารเช้า – อันนี้เวิร์คมากเลยนะ เพราะปกติเวลาจองโรงแรมอย่าง Marriott ถ้าจองพร้อมอาหารเช้าก็ต้องจ่ายเพิ่มเองขั้นต่ำ 1,000 บาท/ห้อง แน่ๆ
• อัพเกรดห้องพัก – สิทธิพิเศษนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนหมายปองว่าจะได้รับการอัพเกรดห้องตอน Check In ไปเป็นห้องที่ระดับสูงกว่าเช่น ชั้นสูง, ห้องมุม, วิวงาม หรือถ้าโชคดีจะถึงห้อง Suites เลยก็เป็นได้ ยิ่งถ้าได้อัพห้องพักขึ้นไปเป็นห้อง Suites เราอาจจะได้เข้า Executive Lounges ด้วย แต่ทีนี้ก็ต้องเข้าใจเงื่อนไขของโรงแรมว่าจะอัพเกรดให้หากมีห้องสถานะที่สูงกว่านั้นว่างอยู่ (Based on availability)
• ฟรีอินเตอร์เนต – มันก็จะมีบางโรงแรมนะ ที่เขายังเก็บเงินค่าใช้งานอินเตอร์เนต แต่ถ้าเรามีบัตรทองโรงแรมละก็ ยังไงๆก็ได้ใช้ฟรีแน่นอน
• Late Check Out – อันนี้เราก็ชอบมากโดยเฉพาะโรงแรมในบางประเทศ 10 โมงก็บังคับเรา Check out แล้วมีสถานะบัตรทองแบบนี้ จะขอ Check out เป็นเที่ยงหรือเป็นบ่ายโมงได้สบายๆ อย่างของ Marriott เขาการันตีให้ถึง 4 โมงเย็นเลยด้วยแต่ Subject to availability นะ
ทีนี้มาดูกันว่ามีโรงแรมเครือไหนบ้างที่บัตร Amex Platinum สามารถอัพเกรดสถานะสมาชิกให้เราได้
• Starwood Hotel and Resorts – เช่น Sheraton, St Regis, W Hotels, Meridien เป็นต้นจะอัพเกรดสถานะให้เป็น Gold
• Carlson Rezidor hotels – ก็จะมี Radisson และ Park Plaza ที่จะคุ้นชื่อกันหน่อย จะอัพเกรดสถานะให้เป็น Gold Elite
• Shangri-La Hotels and Resorts – อันนี้ก็ตรงตัวเลยโรงแรมแชงทั้งหลาย อัพเกรดสถานะให้เป็น Jade
• Hilton – ที่จะดังในไทยก็จะมี Hilton, Conrad, DoubleTree ก็อัพเกรดสถานะให้เป็น Gold
พอมาเป็นสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับโรงแรมหรู 5 ดาวฉะนี้ มูลค่าที่เราจะได้รับจากสิทธิพิเศษนี้ถือว่าคุ้มมากๆ โดยเฉพาะหากว่าเราได้รับการอัพเกรดห้องพักเป็นห้อง Suites ซึ่งราคาปกติน่าจะหลายหมื่นต่อคืน หรือแม้ว่าเราจะไม่ได้อัพเกรดห้องแต่ยังไงเราก็จะได้การันตีอาหารเช้าแน่นอน ซึ่งมูลค่าเริ่มต้นก็ประมาณ 1,000 บาทแล้ว ยังไม่รวมความสะดวกสบายที่เราจะได้รับเพิ่มเติม เช่น Check-in Lounges, Late check out และอื่นๆ บอกเลยว่า คุ้ม!
สิทธิประโยชน์นี้ค่อนข้างตีมูลค่าได้ยาก เพราะแต่ละโรงแรมมีหลายเกรดมาก และแต่ละโรงแรมก็มีเรทราคาไม่เท่ากัน จึงของตีมูลค่าแบบ minimal ที่สุดที่ 2,500 บาท/คืน โดยมีรายละเอียดตามนี้
• ฟรีอาหารเช้า – มูลค่า 1,000 บาท/คืน
• ฟรีอินเตอร์เนต – มูลค่า 500 บาท/คืน
• Late check out – มูลค่า 1,000 บาท/คืน
บริการฟิตเนสที่ i.sawan Residential Spa & Club ของโรงแรม Grad Hyatt Erawan กรุงเทพฯ : สิทธิประโยชน์นี้ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายและใช้ชีวิตอยู่กลางเมือง สามารถใช้สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส สนาม Squash ประหยัดค่าฟิตเนสรายปีไปได้เลย
ปกติค่าเข้าฟิตเนสที่ i.sawan จะอยู่ที่ 1,200 บาท/ครั้ง งั้นเราขอตีมูลค่าอยู่ที่ 12 ครั้งละกันก็จะอยู่ที่ 14,400 บาท
ส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับการทานอาหารโรงแรมหรู 5 ดาว และภัตตาคารชื่อดัง ส่วนลดตัวนี้จะคล้ายๆ สิทธิประโยชน์ที่เราไปสมัครบัตรสมาชิกรายปีของแต่ละเครือโรงแรม ที่น่าสนใจก็จะเป็น
• Conrad – 50% สำหรับทาน 2 ท่าน ที่ Kisara, Liu และ Cafe@2
• The Athenee Hotel – 50% สำหรับทาน 2 ท่าน ที่ The Rain Tree Cafe, Lunch ที่ The Reflexions, Silk Road, Smooth Curry และ Utage
• Siam Kempinski Hotel – 50% สำหรับ Lunch ที่ Brasserie Europa
• และที่อื่นๆ กดดูกันเองได้ –> https://goo.gl/z5TuvB
สำหรับส่วนลดโรงแรมและร้านอาหารพวกนี้ เราขอไม่ตีมูลค่าเพราะว่าตอนนี้มีแอพส่วนลดร้านอาหารเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Eatigo, Offpeak, หรือ Hungry Hub อยู่แล้ว
ประกันภัยต่างๆ! อีกหนึ่งสิทธิประโยชน์สุดๆของผู้ถือบัตรที่ไม่ค่อยมีใครสนใจรายละเอียด สำหรับบัตรสมาชิกบัตร Amex Platinum นั้นเขาให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากสำหรับนักเดินทาง และมีมูลค่าการชดเชยและเงื่อนไขที่ดีมากๆ สรุปมาให้ตามตารางนี้แล้ว
ประเภทของประกัน | รายละเอียด | ชดเชยสูงสุด | ชดเชย | ผู้รับประกัน |
อุบัติเหตจากยานพาหนะสาธารณะ | 25,000,000 | ผู้ถือบัตร | ||
อุบัติเหตเดินทาง | 4,500,000 | ผู้ถือบัตร | ||
พลาดเที่ยวบิน | 4 ชม | 28,000 | 14,000 | ผู้ถือบัตร |
14,000 | ผู้ติดตาม | |||
กระเป๋าล่าช้า | 6 ชม | 70,000 | 35,000 | ผู้ถือบัตร |
35,000 | ผู้ถือบัตร | |||
กระเป๋าล่าช้า เพิ่มเติม | 48 ชม | 70,000 | 35,000 | ผู้ถือบัตร |
35,000 | ผู้ถือบัตร | |||
รวม | 140,000 | |||
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน | ค่ารักษาทางการแพทย์ | 4,500,000 | ผู้ถือบัตร | |
ค่าพาหนะเดินทางไป รพ | ||||
ค่าเดินทางกลับประเทศ | ผู้ถือบัตร / ผู้ติดตาม | |||
ค่าที่พักของผู้ติดตาม | 80,000 | 8,000 | ต่อคืน สำหรับผู้ติดตาม | |
ค่าพักฟื้นเพื่อรักษาต่อเนื่อง | 80,000 | 8,000 | ผู้ถือบัตร | |
ยกเลิกการเดินทาง | เพราะป่วยและบาดเจ็บ | 120,000 | ผู้ถือบัตร | |
ปกป้องการซื้อสินค้า | ภายใน 30 วัน ซ่อม เปลี่ยน ชดเชย | 480,000 | 120,000 | ต่อรายการ |
การรับคืนสินค้า | ภายใน 7 วัน ส่งคืน ชดเชย | 32,000 | 10,000 | ต่อรายการ |
การรับรองราคาสินค้า | ภายใน 15 วัน ชดเชยส่วนต่าง | 32,000 | 10,000 | ต่อรายการ |
ความคุ้มครองที่บัตร Amex Platinum ให้นั้นจะมากกว่าบัตรเครดิตพรี่เมี่ยมอื่นๆ โดยเฉพาะความคุ้มครองเรื่องการซื้อสินค้า การรับคืนสินค้า และการรับรองราคาสินค้า ที่เหมือนจะมีแต่ Amex Platinum กระมังที่ให้ความคุ้มครองนี้ ฉะนั้นหากใครถือบัตรใบนี้และชอบเดินทาง บอกเลยว่าเดินทางสบายใจ
รายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมไปอ่านเองนะจ๊ะ —> https://goo.gl/GGTHGb
มูลค่าของประกันการเดินทางเราตีมูลค่าให้อยู่ที่ 8,200 บาท /ปี
สรุป 1: หากเรารวมมูลค่าสิทธิประโยชน์สิทธิพิเศษของบัตร American Platinum ที่เราวิเคราะห์มาด้วยกันจะได้เบื้องต้น 71,620 บาท โดยมีรายละเอียดตามนี้
- ซื้อ 1 แถม 1 บัตรโดยสารชั้นธุรกิจ – 14,000 บาท / ครั้ง
- Lounge Access – 32,520 บาท
- อัพเกรดสถานะโรงแรม – 2,500 บาท / ครั้ง
- ฟิตเนสที่ i.sawan – 14,400 บาท
- ประกันเดินทาง – 8,200 บาท
สรุป 2: สำหรับบัตรชาร์จการ์ดสำหรับนักเดินทางของ American Express Platinum ใบนี้ที่มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาทนั้นจะคุ้มหรือคุ้มมันอยู่ที่ Lifestyle ของผู้ถือบัตร ถ้า Lifestyle ของผู้ถือบัตรคือ
- นักเดินทางโดยเฉพาะทางฝั่งโซนอเมริกา
- พักโรงแรม 5 ดาว
- โดยสารเครื่องบินชั้นธุรกิจ
- มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงเกิน 1 ล้านบาท (ต่อปี) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกุลเงินต่างประเทศ
ถ้าคุณมีคุณสมบัติตามข้างบนละก็ ค่าธรรมเนียมรายปี 35,000 บาทที่จ่ายไปนั้น คุ้มแสนจะคุ้ม~ และคงจะมีบัตรตัวเลือกอื่นน้อยมากที่จะมีสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษมอบให้เท่านี้
แถม! สำหรับนักสะสมไมล์ แม้ว่าบัตร Amex Plat อาจจะไม่ได้ขึ้นชื่อกับเรื่องนี้แต่บัตร Amex ก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษๆ ในการได้แต้ม Membership Rewards ที่คุ้มค่ามากๆ อย่างเช่นโปรโมชั่นนี้
โบนัสพิเศษ หากใช้จ่ายที่ต่างประเทศ (รวมไปถึง Online Shopping ที่ร้านค้าอยู่นอกประเทศไทย) รับ Membership Rewards โบนัสเพิ่มอีก 4 แต้ม เมื่อใช้จ่ายเกิน 500,000 บาทขึ้นไป ปกติใช้จ่ายผ่านบัตรจะได้รับ Membership Rewards 1 แต้ม ทุกๆ 25 บาท และด้วยโบนัสตัวนี้ ทุกๆ 25 บาท ที่ใช้เกิน 500,000 บาทเราจะได้โบนัสเพิ่มอีก 4 แต้ม หรือสรุปง่ายๆ 5 แต้ม ทุกๆ 25 บาท นั้นเอง
ทีนี้แต้มที่เพิ่มขึ้นมาเราอาจจะเอาไปใช้เป็นเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีก็ได้ หรืออาจจะเอามาแลกเป็นไมล์ ROP ของการบินไทยก็ได้ โดยในวันนี้จะขอนำแต้มที่ได้พิเศษมาลองคำนวนเป็นการแลกแต้ม ROP ให้ดูกัน ซึ่งโดยปกติ ทุกๆ 1.5 Membership Rewards จะแลกมาเป็น 1 ROP ไมล์
ยอดจ่ายสกุลต่างประเทศ | Membership Rewards | ROP | บาท / ROP |
฿500,000 | 20,000 | 13,333.33 | ฿37.50 |
วิธีคำนวนก็ 500,000 หารด้วย 25 จะได้ Membership Reward และทุก ๆ 1.5 แต้มสามารถแลก ROP ได้ 1 ไมล์ฉะนั้น เรทการแลกค่อนข้างแพงโคตร 37.50 บาท/ ROP ไมล์
แต่ถ้าเรารูดเกิน 500,000 บาทเมื่อไหร่ เรทการแลก ROP จะกลายเป็นถูกลงโคตรๆ ดูตารางข้างล่าง
ยอดจ่ายสกุลต่างประเทศ | Membership Rewards | ROP | บาท / ROP |
฿500,000 | 20,000 | 13,333.33 | ฿37.50 |
฿921,875 | 104,375 | 69,583.33 | ฿13.2485 |
ด้วยโบนัสพิเศษ การใช้จ่ายที่ต่างประเทศ เราสามารถที่จะ Maximize โบนัสนี้และทำให้มูลค่าการแลกไมล์เหลืออยู่แค่เพียง 13.24 บาท/ ROP ซึ่งถือว่าเป็นเรทการแลกที่คุ้มมากๆ
**ข้อจำกัดของโบนัสนี้คือ แต้มโบนัสให้ได้ไม่เกิน 67,5000 Membership Rewards**
แต่ยังไม่หมดนะ … ขอแต่อีกรอบ ถ้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเรา 921.875 บาทเป็นยอดการใช้จ่ายที่ต่างประเทศทั้งหมด ฉะนั้นเราได้จะได้รับ Welcome Offer ข้างบนมาแล้ว เราก็สามารถรวมแต้มเป็น 104,375 + 97,500 = 201,875 Membership Rewards และสามารถแลก ROP ได้ 134,583 ไมล์ (ได้บัตรโดยสารชั้นธุรกิจไปกลับกรุงเทพฯ – ลอนดอน) หรือคิดเฉลี่ยออกมาเป็น 6.85 บาท/ ROP ไมล์
ยอดจ่ายสกุลต่างประเทศ | Membership Reward | Welcome Offer | ROP | บาท / ROP |
฿500,000 | 20,000 | 0 | 13,333.33 | ฿37.50 |
฿921,875 | 104,375 | 97,500 | 134,583.33 | ฿6.85 |
โคตรโหด! และคุ้มโคตร พูดเลย ใช่เลย ถือว่าเป็น sweet spot ของผู้ถือบัตร American Express Platinum ที่มียอดใช้จ่ายเป็นสกุลต่างประเทศอยู่ที่ราวๆ 1,000,000 บาท ถ้ายอดเกินจากนี้ก็ใช้บัตรอื่นรูดละกันนะ
Leave a Reply