นับถอยหลังรอวันที่จะได้ไปขับรถท่องเที่ยวญี่ปุ่น อย่างที่ใจฝัน ในชีวิตที่ผ่านมาเรื่องเช่ารถและขับรถเที่ยวในต่างประเทศนั้น เคยแค่ครั้งเดียวเองเมื่อหลายปีที่แล้ว ณ ประเทศนิวซีแลนด์ เพียงแต่ว่าตอนนั้นเราไม่ได้เป็นคนจัดการดูแลวางแผนเรื่องการท่องเที่ยวเลย ได้รับคำสั่งมาอย่างเดียวว่าให้เตรียมใบขับขี่สากลไว้พอ จะได้เผื่อช่วยพี่ๆเขาขับรถ ฉะนั้นเรื่องประสบการณ์จองรถ เช่ารถ เลือกรถ วางแผนการเดินทาง อะไรก็แล้วแต่นั้นเรียกได้ว่า “ศูนย์” มาทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่ฮอกไกโดนี้แหละ ที่จะเป็นครั้งแรกที่เราเป็นคนจัดการดูแลเส้นทางการเดินทาง โปรแกรมเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก สัพเพเหระเอง ก็สนุกดีน่ะ ค้นคว้าเองอะไรเอง แถมสมัยนี้ข้อมูลอะไรก็หาได้ไม่ยาก ด้วยที่ว่าข้อมูลบนโลกอินเตอร์เนตนั้นมีอยู่เยอะ มากมาย และมหาศาล ส่วนที่ยากก็จะเป็นการกลั่นกรอง หากข้อมูลที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับตัวเราเองเสียมากกว่า
อย่างที่เล่ามาว่าทริปขับรถเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้ เราจะเริ่มต้นจากสนามบิน New-Chitose รับรถเสร็จก็จะขับรถเดินทางต่อไปยังเมือง Furano และไปแวะกินอาหารเที่ยงในเมือง ซึ่งเป็นร้านอาหารในละครซี่รี่เกาหลีเรื่อง Love Rain ที่จางกึนซอก กับยุนอา SNSD เล่นด้วยกัน ถ้าคนที่ดูซี่รี่เรื่องนี้น่าจะจำฉากในตอนแรกๆ ได้ดีที่ว่า พระเอกกับนางเอกเพิ่งได้เจอกัน และสุดท้ายได้ไปกินข้าวแกงกระหรี่ในเมือง Furano นั้นแหละจุดหมายปลายทางแรกของเราก็จะคือที่ร้านแกงกระหรี่นั้นเอง (นี่มันตามรอยซี่รี่ แดจังกึม ชัดๆ)

การรับรถ
แต่ก่อนที่จะเล่าไปถึงการเดินทางเรามาเข้าเรื่องการรับรถก่อนดีกว่า และสิ่งที่ควรรู้สำหรับการ เช่ารถ ขับรถ เที่ยวญี่ปุ่น ณ ฮอกไกโด นี้ก็คือ ศูนย์เช่ารถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Nissan, JR, หรือที่ไหนก็ตามแต่ มันไม่ได้อยู่ในตัวสนามบิน New-Chitose (CTS) นะ แต่มันจะอยู่ห่างจากสนามบินไปเล็กน้อย แต่…. แต่….. มันเป็นระยะทางที่ไม่ควรเดิน ฉะนั้นเราก็ต้องพึ่งพา Shuttle Bus เพื่อที่จะพาเรารวมทั้งเหล่าสมาชิกและสิ่งของกระเป๋าสัพเพเหระทั้งหลายเพื่อไปยังบริษัทเช่ารถแต่ละแห่ง
ฉะนั้นหลังจากที่เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เพื่อจะเดินทางไปรับรถ ให้เราเตรียมเอกสารดังนี้
1) Passport
2) ใบขับขี่ตัวของไทย (ต้องพกไปด้วยนะ)
3) ใบขับขี่สากล (ต้องพาไปด้วยแน่นอน)
4) ใบจองรถ
และลงไปที่ชั้นล่างของสนามบิน ชั้น 1F ซึ่งจะเป็นทางยาวๆ ด้านซ้ายด้านขวา จะเป็นที่จอดรถรับส่งรถบัส และเดินตรงตามทางไปเรื่อยๆ จนพบกับ Transportation Information Center แล้วให้เราแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการไปรับรถเช่าของเรา ทางเจ้าหน้าที่เขาจะติดต่อบริษัทเช่ารถนั้นๆ ให้เพื่อที่จะส่งรถ Shuttle Bus มารับเรานั้นเอง โดยปกติน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที สำหรับ Shuttle Bus

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ เขาจะให้เอกสารการเช่ารถเรามา 1 ชุด เพื่อที่จะให้เราเอาไปยื่นกับบริษัทเช่ารถที่เราจองรถมา ซึ่งภายในเอกสารนี้จะมีหมายเลขคิว มาให้ด้วย (เอาจริงๆ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามันคือหมายเลขคิว)
รอสักครู่นั้นไง รถ Shuttle Bus ของ Nissan มาแล้ว ที่ญี่ปุ่นเขาตรงต่อเวลามาก ถ้าเขาบอกว่า 10 นาที นี้เขาก็หมายถึง 10 นาทีจริงๆนะ ไม่ได้มี 10 นาทีนิดๆหน่อยๆ เหมือนบ้านเรา

เราก็รีบแบกลากกระเป๋าสัมภาระ ของเราขึ้นรถ ลุงคนขับหน้าตาใจดี ก็จะมาช่วยยกกระเป๋าให้ นี้แหละคนญี่ปุ่นเรื่องจิตใจบริการนี้ต้องยกให้เขาเลย
ขึ้นมาเสร็จก็ตกใจเล็กน้อย ทำไมเขาส่งรถบัสคันใหญ่มารับเรากรุ๊ปเดียวหรือนี้ ประมาณรถบัสทั้งคันให้นายคนเดียวเลย แต่พอนั่งไปได้สักพักนึง ก็ถึงบางอ้อ เพราะแทนที่รถจะขับตรงไปที่ศูนย์เช่ารถ เขาขับไปแวะรับคนญี่ปุ่นอีกหลายกรุ๊ปที่ Chitose Domestic Airport ก่อน แล้วค่อยพาเราไปส่งที่ศูนย์เช่ารถ Nissan

ถึงแล้วววววววว ลงจากรถบัสเสร็จก็รีบเข้าไปในศูนย์ ด้วยความที่ไม่เคย ก็พยายามเดินหาตู้กดรับบัตรคิว เดินไปเดินมา สองรอบก็แล้วก็ยังหาตู้ไม่เจอ เอ่ะ ความคิดมันก็ผุดขึ้นมาในหัว แล้วมันจะรู้ได้ยังไงฟ่ะ ว่าเรามาถึงแล้ว ก็เลยแสดงความเป็นกระเหรี่ยง เดินเข้าไปถามพนักงานหลังเคาเตอร์ และด้วยที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย ก็เลยได้แต่ใช้ภาษามือพร้อมชูเอกสาร พนักงานมันก็มองหน้ากลับมาแล้วใส่ภาษาญี่ปุ่นชุดกลาง พร้อมผายมือเชิญไปที่นั่ง ….

กระเหรี่ยงอย่างเราไม่เข้าใจที่เขาพูดหรอก เข้าใจแค่ว่า เออ นั่งก็ได้ฟ่ะ บัตรคิวก็ยังไม่มี …….. หลังจากจ่อก้นลงที่นั่งไปได้สักพักสายตาก็เริ่มสอดส่องมาในเอกสารที่พนักงานสาวจาก Transportation Information Center เขาให้เรามา ก็เจอหมายเลขที่จิตใต้สำนึกเริ่มจะฉุกคิดได้ว่า มันน่าจะเป็นหมายเลขคิวแหละ พอฉุกคิดได้อย่างนั้น ความกระเหรี่ยงของเราก็ลดระดับลงจนเหลือ “ศูนย์” พร้อมนั่งนิ่งๆเรียบร้อย 😀
นั้นไงล่ะ รอไปได้สักคิวสองคิว หมายเลขบนเอกสารนั้นก็ บลิ๊งๆ ขึ้นอยู่บนหน้าจอ พร้อมบอกหมายเลขเคาเตอร์ที่เราจะต้องเข้าไปติดต่อ เรา ไม่รอช้ารีบเข้าไปทันที พร้อมเอาเอกสารต่างๆ ให้พนักงานตรวจสอบ ในใจก็ลุ้นว่า รถคันไหนนะ ที่จะได้เป็นรถแห่งความโชคดี ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจในทริปขับรถเที่ยวญี่ปุ่นของเราคราวนี้
ระหว่างรอพนักงานเขาก็มีเอกสาร 2-3 อย่างมาให้เราเซ็นชื่อ เท่าที่อ่านดูจะเป็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องประกันอุบัติเหตุ เรื่อง N.O.C. รวมทั้งเอกสารที่แจ้งว่า ถ้าหากเราทำผิดกฏจราจรของฮอกไกโด และถูกปรับ ถูกใบสั่ง ถูกล็อคล้อ ต่างๆนาๆ เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการต่างๆทั้งสิ้น
นอกจากนี้ก็จะเป็นการรูดปรื้ดดด บัตรเครดิตก่อนเพื่อเป็นการการันตีค่าเช่ารถ
หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องเอกสาร ก็ถึงเวลาที่พนักงานจะพาเราไปชมและตรวจรถที่สุดแสนจะโชคดี ที่จะได้มาเป็นเพื่อนการเดินทางของเรากัน


พนักงานก็จะสอนวิธีการใช้รีโมทรถ การเปิดปิด GPS การขยับเบาะหลัง อะไรต่างๆ พร้อมบอกข้อมูลบนหน้าปัดรถอะไรต่างๆนานา เป็นภาษาญี่ปุ่น ……… และเราก็กระเหรี่ยงคนไทยอยู่แล้ว คิดว่าจะสนใจฟังรึ เราก็เดินตรวจสภาพรถก่อน ว่ามีรงมีรอย อะไรตรงไหนไหม ตรวจกระจกมีรอยร้าวหรือเปล่า เช็คไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟหรี่ทุกอย่าง ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีพร้อมใช้งาน และสุดท้ายเช็คน้ำมันว่าเต็มถังรึเปล่า เพราะสุดท้ายเวลาเราเอารถมาคืน ตามมารยาทและสิ่งที่พึงกระทำก็คือ เราต้องเติมน้ำมันกลับมาอย่างเต็มถังเช่นเดียวกัน
หลังจากตรวจรถเรียบร้อย รถ Nissan Cube คันนี้ก็อยู่ในกำมือเรา และพร้อมออกเดินทางไปยัง Furano ได้แล้ว !
สรุปสำหรับ Road Trip in Hokkaido Part2 ทริปเช่ารถ ขับรถ เที่ยวญี่ปุ่น (ฮอกไกโด) ไม่ง้อทัวร์ ตอนที่2
– นอกจากใบขับขี่สากล แต่ใบขับขี่ไทยต้องใช้ด้วยนะ
– ศูนย์ติดต่อรถเช่า (ทุกยี่ห้อ) ที่ New-Chitose Airport อยู่ที่ชั้น 1 (Transportation Information Center)
– ต้องเผื่อเวลา Shuttle Bus และเวลาดำเนินเอกสารตอนจะรับรถ 1 ชม. ขั้นต่ำ
– ตรวจสภาพรถให้แน่ใจว่า ไม่มีรอยใดๆ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ นั้นใช้งานได้
แนะนำ: คู่มือการขับรถในฮอกไกโด ภาษาไทย Download Here (น่าจะอ่านสักรอบก่อนการเดินทางนะ)
credit: Japan National Tourism Organization
ใช้ GPS ครั้งแรก นั่งกดมั่วอยู่เกือบ 15 นาทีกว่าจะได้ออกรถ lol
ตอนหน้าจะเกี่ยวกับเทคนิคการใช้งาน GPS แบบเบื้องต้นและการเติมน้ำมัน
แถมแผนที่บอกระยะทาง ถนนสายหลัก ถนนทางด่วน รวมทั้งระยะเวลาคร่าวๆ (เป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางมากๆ)
Credit: www.hokkaidoguide.com
When is the best time to see lavender in Furano?
Normally Mid of July dude =)
รบกวนสอบถามครับ พอดีกำลังเปลี่ยนแผนจากรถไฟเป็นรถเช่า แต่สงสัยว่าทำไมเวลาในเวปต่างๆหรือแม้แต่ในแผนที่ ถึงประมาณเวลาไว้ค่อนข้างช้าครับ
เช่น Oshamambe ไป Hakodate 104kms ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หรือใน google map เอง ประมาณเวลา จาก Sapporo ไป Hakodate (307kms) ถึง 4 ชม.
เลยไม่แน่ใจว่าเป็นการประเมินเผื่อ ของแผนที่เอง หรือเป็นเพราะการจำกัดความเร็วของญี่ปุ่น หรือเส้นทางไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากครับ ไปทั้งหมด 4 คน แต่ขับคนเดียวครับ เลยห่วงว่าจะทำให้เหนื่อยกว่าและช้ากว่ารถไฟรึปล่าว (แต่ประหยัดกว่าเห็นๆ^^) ขอบคุณครับ
ข้อมูลตาม MAP เขาจะคิดเวลาตามข้อมูล traffic & speedlimit ครับ ซึ่งเอาเข้าจริงเวลาขับคนไทยอย่าเราก็ทะลุลิมิตอยู่แล้ว ก็จะย่นเวลาเดินทางลงมาเล็กน้อยครับ
ส่วนการเดินทางขับรถที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะฮอกไกโดนี้ขับสบายมากครับ รถไม่เยอะ และที่พักกลางทางมีค่อนข้างเยอะครับ ไม่น่าจะเหนื่อยมาก ถ้าเหนื่อยก็แวะพักได้
ถ้าให้แนะนำก็ให้แนะนำขึ้นทางด่วนครับ จะได้ทำเวลาและความเร็วได้ดีกว่าทางธรรมดามาก
รบกวนถามหน่อยค่ะ
1 cube นี่สามารถ ใส่กระเป๋า เดินทางขนาด 24-26 นิ้ว จำนวน 4 ใบพอไหมค่ะ
2 มีข้อควรระวังอะไรบ้างสำหรับรถรุ่นนี้
กำลังมองหารถเช่าค่ะ ว่าควรใช้รุ่นนี้ หรือ ใช้เป็น wagon ดี
ขอบคุณค่ะ
จัดวางดีดีพอครับ เพราะที่วางของด้านหลังมันวางสูงได้
เดินทาง4คนเบาะหลังก็ยังพอวางของได้อีกเล็กน้อยครับ
ขอบคุณมากค่ะ
ข้อมูลมีประโยชน์มากๆๆ 🙂
Very useful review krub.