ตอนเด็กๆ ฉันชอบที่จะหลับตาพริ้ม ให้สายตานั้นมองเห็นแต่ความมืด และทุกๆครั้งที่ฉันหลับตา ฉันก็จะจินตนาการว่ามีดวงดาวระยิบระยับอยู่ในนั้น
ตอนเด็กๆ ฉันชอบที่จะคิดอะไรอยู่ในหัวของฉันคนเดียว คิดเป็นเรื่องเป็นราวเป็นตุเป็นตะ และชอบที่จะอมยิ้มหรือบางทีก็หัวเราะ ฮะ ฮ้า ฮ่า ออกมาเบาๆ
ตอนเด็กๆ ฉันชอบกินข้าวขาหมู โดยฉันจะตักข้าวเยอะๆ ใส่ลงไปในถ้วยแบบจีน และฉันจะตักน้ำขาหมูราดข้าวให้ชุ่ม พร้อมหนังหมูนุ่มๆ โปะลงบนข้าวไม่กี่ชิ้น และกินด้วยตะเกียบตามพระเอกหนังจีนที่ดูในทีวี
ตอนเด็กๆ ฉันชอบที่จะเดินเล่นไปตามซอกซอยต่างๆแถวบ้าน เพราะฉันอยากรู้ว่าแถวๆบ้านฉัน มีอะไรอยู่บ้าง และฉันชอบหาทางลัด แต่ฉันไม่ค่อยจะหลงสักเท่าไหร่ เพราะฉันกลัวหลงทางเป็นที่สุด
ตอนเด็กๆ ฉันชอบกินแตงกวามาก (คุณแม่เล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าหยิบมาแทะเล่น) แต่ปัจจุบัน แค่มีกลิ่นแตงกวาในอาหาร ฉันก็ไม่กินแล้ว
ตอนเด็กๆ ฉันชอบขึ้นไปห้องนอนของพี่ๆ แล้วไปค้นกล่องเทปคาสเสตของพี่มานั่งฟัง ทำให้ฉันรู้จักเพลงเก่าๆ เกินอายุฉันมากมาย
ตอนเด็กๆ ฉันชอบซื้อตัวต่อ LEGO แต่ฉันไม่เคยต่อมันได้ตามแบบเลยสักครั้ง เพราะฉันจะออกนอกลู่นอกทางไปต่อ เป็นยานอวกาศแบบของตัวเองกระหลั่วๆ
ตอนเด็กๆ ฉันชอบคิดถามว่า ถ้าฉันไม่ได้เกิดมาเป็นฉัน แล้วฉันจะเป็นอะไร และสุดท้ายจะจบลงด้วยภาพทะเลมีคลื่นซัดในจินตนาการ แล้วหลับไป
ตอนเด็กๆ ฉันชอบอากาศเย็นๆ ที่บ้านฉันจะมีแอร์แบบตั้งพื้นเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าพิงกำแพงไว้ ฉันจะขึ้นไปนอนบนแอร์ และเอี้ยวตัวรับลมแอร์ในทุกช่องเท่าที่จะทำได้
ตอนเด็กๆ ฉันชอบหมอนของคุณแม่มากที่สุด ชอบกลิ่นแชมพูที่ติดอยู่บนหมอน และฝันไว้ว่าถ้าจะมีแฟนก็อยากให้หมอนของแฟนมีกลิ่นหอมเหมือนคุณแม่
สุดท้ายแม้ว่าตอนเด็กๆ ฉันจะตาตี่ แต่ปัจจุบันฉันก็ยังตาตี่อยู่ดี
Leave a Reply