–
หลังจากได้ New iPad สีดำมาอย่างไม่คาดฝัน ( ต้องขอบพระคุณคุณพี่ @chaiyosart ที่ซื้อกลับมาเป็นของฝากให้จากประเทศสหรัฐอเมริกา ) และด้วยเหตุที่ได้เครื่องมาก่อนเครื่องศูนย์จะเข้า ทำให้ตอนนั้นค่อนข้างยากลำบากในการหาเคส New iPad ดีดีสักอันมาใช้งาน เดินเข้าไป iStudio สาขานู้นๆนี่ๆ ก็เจอแต่เคสที่ดีไซน์มาสำหรับ iPad2 ส่วนที่มาบุญครองมีขายก็เป็นเคสของจีนที่เราก็ไม่ได้อยากได้แบบนั้นมาใช้ เพราะยังไม่ถูกใจแล้วไม่อยากจะเปลี่ยนเคสบ่อยๆ ( แอบเบื่อเลือกนั้นเอง )
และอยู่มาวันหนึ่งเราก็ได้เสียง DM สวรรค์จากคุณพี่นู๋ดี @9LivesNoodee ว่า “เนี้ยพี่มีเคสพรีวิวเหลือ สนใจไหม” ถ้าสนใจก็บอกพี่เขาได้เลย…
แหนะ อ้อยมาจ่ออยู่ปากช้างแล้วจะเหลือหรอ?
งั๊บบบบบ!!!
–

–
เคส iPad2 ของ Nexxone Capri2 ก็หลุดลอดมาอยู่ในกำมือของเราอย่างเนียนๆ และแว๊บแรกเห็นเราก็แอบชอบความดุดัน เรียบร้อย ดูมีสไตล์อย่างเรียบง่าย และเหมาะสำหรับการเดินพกถือไปพรีเซ้นงานหน้าชั้นหรือในที่ประชุม ให้อารมณ์ดูดีมีการศึกษาทำนองนั้น
นี้เรามาซูมดูใกล้ๆหน่อยดีกว่าว่าวัสดุนี้มันใช่หนังอย่างที่ว่าหรือเปล่า ( พูดจริงๆ ดูไม่เป็น ) และจะได้แอบโชว์ยี่ห้อด้วย เนียนไหม?
–

–
บางคนอาจจะงงๆ ว่าเอ่ะ ไหนว่าได้ New iPad มา แล้วทำไมถึงเอาเคสของ iPad2 มาใช้ ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า New iPad เนี้ยจะมีความหนามากกว่า iPad2 อยู่ราวๆ 0.6 มิลลิเมตร และตอนแรกก็แอบคิดเหมือนกันว่ามันจะใส่ได้จริงๆหรอ แต่ก็เห็นอย่างภาพนะว่าใส่ได้ อาจจะออกแนวบังคับขืนใจนิดหน่อยในช่วงแรกในการยัดเข้าไป แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเหนือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่ ใส่ไปสักพักมันก็ไม่ฝืดล่ะ เอ่ะ o_O ….
เปลี่ยนเรื่องมาดูมุมด้านหลังของเคสดีกว่า ว่าหล่อเข้ม สาวมั่นแค่ไหน
–

–
หลังจากดูมุมด้านหลังของเคสแล้ว เราคงสังเกตุเห็นว่า แม้เคสมันจะไม่ได้ครอบคลุมทุกส่วนของตัว iPad แต่มุมสำคัญๆ ทุกมุมนั้นมีส่วนขอบของเคสนั้นป้องกันอยู่ 4 มุมหลัก และ 2 มุมบนและล่าง ส่วนด้านซ้ายและขวาก็มีขอบขึ้นมา ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่า ถ้าหากเราเผลอทำตกไม่ว่าจะท่าตีลังกา หรือตีโค้งยังไง iPad เราก็จะปลอดภัยจากรอยบุบและรอยถลอกได้ค่อนข้างแน่นอน ( ใช้มายังไม่บุบไม่ถลอกเลย )
คราวนี้มาดูมุมบนและมุมล่าง ดูความสะดวกในการใช้งานช่องต่างๆ ของ iPad กัน
–

–
มุมด้านบนจะเห็นว่าตัว Nexxone Capri2 ถูกดีไซน์ให้สามารถใช้งานจาก (ซ้าย) ช่องเสียบหูฟัง มาที่ (ขวา) ปุ่มเปิดปิด On/Off รวมไปถึง ปุ่ม Volume และ ที่เลื่อนเอนกประสงค์ Toggle Mute / Vibrate ได้สะดวกสบายมาก รวมไปถึงช่องของกล้องถ่ายรูปก็สามารถใช้งานได้ทันทีไม่จำเป็นตัวขยับตัวเคสขึ้นหรือลงเหมือนกับเคสของ Moshi Concerti
ที่นี้มาดูมุมด้านล่างของเคสกันบ้าง
–

–
ส่วนด้านมุมล่างสุดของเคส ชัดเจนมากสำหรับตรงกลางช่องสำหรับต่อสายชาร์ตหรือสาย Sync แล้วด้านมุม (ซ้าย) สำหรับรูลำโพง … โอ้ย ชอบแหะ
หลังจากดูครบหมดแล้วคราวนี้มาดูเวลาใช้งานกันบ้าง
–

–
การเปิดเคสก็เปิดเหมือนเปิดหนังสือนะ เปิดจากขวาไปซ้ายโดยใช้นิ้วดันตัวล็อค มันเล็กน้อยในการเปิด และความรู้สึกในการเปิดปิดเคส Nexxone Capri2 นั้นก็ต้องบอกเลยว่า รู้สึกแข็งแรงทนทานและราบรื่นมากและที่สำคัญตัวแม่เหล็กที่เอาไว้เปิดปิดหน้าจออัตโนมัติ Smart Cover ก็สามารถใช้งานกับตัว New iPad ได้นะครับสำหรับเคสนี้ ส่วนวัสดุด้านในก็จะเป็นเหมือนขนนุ่มๆๆ สักอย่าง ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าคืออะไร แต่มันก็สามารถป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad ของเราได้ดีเลยล่ะ
หากสังเหตุกันให้ดี เราจะเห็นว่าตัวล็อค iPad ของ Nexxone Capri2 นี้จะมีด้วยกัน 6 จุด บนขวา กลางบน และบนซ้าย และด้านล่างก็เป็นเช่นเดียวกัน ซึ่ง 6 จุดนี้ก็เป็นตัวขอบเอาไว้ป้องกันมุมต่างๆของ iPad ด้วย ซึ่งสำหรับ New iPad นั้นเราไม่สามารถล็อคเครื่องกับจุดบนซ้ายและล่างซ้ายได้…. เพราะว่าตัวเครื่องมันหนากว่า iPad2 นั้นเอง! …..
ซึ่งตรงนี้ผมได้ลองเอา iPad2 ของคุณแฟนมาทดลองใส่เคส Nexxone Capri2 ตัวนี้ดูก็ปรากฏว่าสามารถใส่เครื่องได้ครบทั้ง 6 ตัวล็อค โดยใช้นิ้วดันตัว iPad เข้ากับมุมบนซ้ายและล่างซ้ายลงไปได้ เข้าล็อคพอดี ในขณะนี้ New iPad ยัดไม่ลงนะครับ….
อาจจะฟังดูแย่… แต่หารู้ไม่ว่าเวลาใช้งานจริงแล้ว ผมกลับแฮปปี้ที่จะไม่จำเป็นต้องล็อค iPad ของเราไว้กับตัวล็อคครบทุกตัวนะ ด้วยเหตุผลอันใดไว้จะอธิบายต่อถึงการใช้นะ
การใช้งาน Nexxone Capri2 นี้เราสามารถปรับมุมมองได้ถึง 4 ระดับตามนี้
–

–
ซึ่งส่วนใหญ่จากการใช้งานในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ผมชอบใช้แบบที่ 3 มากที่สุดเลยไม่ว่าจะนอนบนเตียงเล่น นั่งที่โต๊ะทำงาน หรือที่โต๊ะกินข้าว …. และสังเกตุไหมว่าเวลาเราจะตั้งเจ้า iPad ของเราโดยใช้เคส Nexxone Capri2 เนี้ย เราต้องปลดล็อคตัวล็อคด้านบนซ้ายและด้านล่างซ้ายออก เพื่อจะนำขอบตรงนั้นของ iPad มาตั้งนั้นเอง ซึ่งมันเป็น 2 จุดที่ New iPad ไม่สามารถยัดลงไปได้…. ทำให้เวลาใช้งานจริงๆเนี้ยมันช่างสะดวกสบายมากเลย เพราะตอนที่ผมลองเอา iPad2 มาใช้นั้นค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อยที่ทุกครั้งที่ผมจะตั้ง iPad เนี้ยผมต้องมานั่งแกะมุม 2 มุมนี้ออกซึ่งมันต้องใช้แรงพอสมควร….
และสุดท้ายนี้ขอฝากไว้นิดว่านอกจากการตั้ง iPad 4 มุมแล้วเนี้ย เจ้าเคส Nexxone Capri2 ยังมีอีก 1 ไม้ตายที่ผมก็ชอบใช้งานเช่นกัน คือการวางแนบกับโต๊ะโดยทำมุมเล็กน้อย เพื่อเหมาะกับการพิมพ์ Virtual Keyboard บน iPad นั้นเอง
–

–
สรุปว่า
เคส Nexxone Capri2 เนี้ยแม้ว่ามันจะถูกดีไซน์ออกมาให้ใช้งานได้กับ iPad2 ผมกลับไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่นะกับการใช้งานกับ iPad2 ด้วยเหตุที่ว่าผมใช้งานการตั้ง iPad เป็นแบบแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง แล้วจะต้องเสียเวลามานั่งแกะมุมตัวล็อคออก ซึ่งมันต้องใช้แรงพอสมควรแบบเบาๆ ในขณะที่หาก เคส Nexxone Capri2 ตัวนี้นำมาใช้งานกับ New iPad จะไม่พบปัญหาตรงนี้เลย และแม้ว่าจะใช้ตัวล็อคแค่ 4 จุดจากทั้งหมด 6 จุด มันก็พอเพียงแล้วที่จะไม่ทำให้ New iPad ผมหลุดหรือหล่นออกจากเคส อาจจะเป็นเพราะที่ว่าใส่เข้าไปแล้วมันจะฟิตกว่าทั่วไปเพราะว่า New iPad มันหนากว่า iPad2 หนิ….
ผมขอฟันธงด้วยประสบการณ์การใช้งานของผมว่า
such a nice ipade case naja ieie