เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับคนที่ใช้งาน MOTOROLA ATRIX อยู่ ด้วย Spec ที่มาพร้อมและไม่ได้ขี้เหล่ ไม่ว่าจะเป็น Dual Core CPU ที่ 1Ghz แรม และรอมที่ให้มาใช้อย่างจุใจ กล้องหลังขนาด 5Mega Pixels พร้อมกล้องหน้าที่แม้จะห่วยไปหน่อย แต่ก็ยังมีไว้ให้ใช้ได้ขำๆ รวมไปถึงแบตความจุที่พอเพียง 1930 mAh ที่จะใช้ได้พอหมดวัน [2G อยู่ทั้งวันได้สะบายๆ แต่ถ้า 3G ของผมใช้เฉลี่ยอยู่ได้ 7-10 ชม.]

รวมไปถึงความสามารถพิเศษที่ให้มาอย่าง Fingerprint Reader ที่สะดวกสบายมากมายเวลาใช้งาน ไม่ต้องมานั่งเสียเวลากดพาสเวิร์ดต่างๆ เวลา unlock หน้าจอ พร้อมกันเพื่อนๆมือบอนที่อาจจะมาเผลอกด Factory Reset เครื่องเรา
มาวันนี้จะขอเขียนต่อ [Part.2] ซึ่งจะเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของเจ้า Atrix ที่มือถือเจ้าอื่นๆ ไม่มี เป็น Gimmick ที่สามารถไปโม้กับชาวบ้านชาวช่องเขาได้ ไอ้ความสามารถนี้มันมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่มากลับกล่อง Atrix ของเรานั้นแหละครับ หากสังเกตุดีดี เราจะพบสาย Mini HDMI ที่แถมให้มาด้วย อันนี้แหละครับคือพระเอกของเราในสิ่งที่คนๆอื่นเขาไม่มี เขาไม่ให้มา แต่เจ้า MOTOROLA ATRIX ของเรานั้นทำได้ ^0^
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มความสามารถพิเศษอย่างแรกเลยดีกว่าซึ่งก็คือ
Entertainment Center
อยากรู้ว่าไอ้เจ้า Entertainment Center นี้มันคืออะไร ไว้ใช้ทำอะไรก็ให้หยิบสาย Mini HDMI ที่แถมมาด้วย มาเสียบกับด้านข้างซ้ายของเจ้า Atrix ของเราเลยครับ และนำมันไปเสียบต่อกับช่องสัญญาน HDMI ของทีวี หรือหน้าจอ Monitor ที่บ้านเราครับ
หลังจากเสียบเรียบร้อยแล้วหน้าจอ Atrix ของเราก็จะขึ้นหน้าจอดังนี้


.
.
.
.
.
.
แล้วเราก็เลือกอันที่ 2 เลยครับ Entertainment Center ซึ่งหลังจากเลือกแล้วหน้าจอของ Atrix ก็จะแปลงรูปร่างออกมาเป็น Media Controller ซึ่งมีหน้าตาที่ละมล้ายคล้าย iPod เสียจริงๆ รวมไปถึงบนหน้าจอทีวีเราก็จะแด่นตะหง่านด้วย หน้าจอประนี้


.
.
.
.
.
.
ครั้งแรกที่เล่นผมก็ร้อง WOW! เลยทีเดียว เพราะใน Entertainment Center เราสามารถที่จะจัดการ Media files ที่มีอยู่ในเครื่อง Atrix ได้ไม่ว่าจะเป็น เพลง รูปภาพ หรือ วีดีโอ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมก็ ใช้ Media Controller บน Atrix เลือกไปที่ Music เลยครับ มาดูกันว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรบ้าง


.
.
.
.
.
.
หลังจากกดเข้ามาแล้ว มันจะอัพเดทเพลงทั้งในตัวเครื่องและใน SD Card ของเราครับ โดยที่เราสามารถที่จะ Sort เพลงได้ 4 แบบ คือ Playlist, Artist, Album, และ Song ซึ่งในรูปผมจะโชว์การ Sort แบบ Album เพราะว่ามันโชว์ Album covers ขึ้นมาให้ด้วย ส่วนอีกรูปนึงก็จะเป็นหน้าตา Music Player เมื่อเราเลือกเพลงที่จะเล่นเสร็จ แต่หากสังเหตุดีดี จะพบว่ามีปัญหาในการอ่านภาษาไทยนะครับ อ่านไม่ได้ >.<!
และข้อดีของการเล่นเพลงผ่าน Entertainment Center นี้คือ เสียงเพลงจะไปออกที่ลำโพงของทีวีนะครับ 😉 เพราะเราได้สาย HDMI นำส่งข้อมูลไปทั้งภาพและเสียง และภาพและเสียงที่ได้ก็ได้มาในคุณภาพที่ดีเยี่ยม
หลังจากผมฟังเพลงไปได้สักพักก็เออมาดูกันต่อครับว่า Motorola Atrix Entertainment Center นี้ยังทำอะไรได้อีก ผมก็จัดการกด back ออกมา ยังหน้า Main แล้วเข้าไปยังหน้า Picture ครับซึ่ง ณ ขณะนี้แม้ว่าผมจะเข้ามาอยู่ในหน้า Pictures ที่จะลิส Folders ต่างๆ ในเครื่องรวมไปถึงความสามารถที่จะเล่น Slideshow ได้ด้วย เสียงเพลงที่ผมเปิดทิ้งไว้ใน Music ก็ยังคงเล่นอยู่นะครับ 😉 แหล่มเลยทีเดียว


.
.
.
.
.
.
สำหรับการเปิดดูรูปไม่ว่าจะเป็น Slideshow หรือว่ากดเองแบบ manual ก็ทำได้โอเคลื่นไหลพอสมควรครับ แต่สิ่งที่เสียดายก็คงจะเป็นการแสดงผลแบบที่ไม่เชิงเต็มหน้าจอเท่าไหร่นัก อย่างตัวอย่างนะครับ หรือว่าอาจเป็นเพราะรูปของผมมันมาเป็นแบบ สี่เหลี่ยมจัตุรัส มั้ง scale การแสดงผลเลยไม่เต็มจออย่างที่ต้องการ แต่ถ้ารูปออกมาเป็นแบบ Widescreem นี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับยังไม่ได้ลองดู
ที่เหลือก็จะเป็นในส่วนของ Video และ Setting นะครับ ซึ่งสำหรับตัว Video ก็เหมือนกับการเล่นเพลงหรือเล่นรูป และในส่วนของ Setting ก็คือการตั้งค่า interval ของ Slideshow ว่าจะให้โชว์กี่วินาทีก่อนเปลี่ยนภาพและ Screensaver เท่านั้นเอง
โอโหอะไรกันนี้แค่พูดถึง Entertainment Center นี้ก็กินหน้าไปเยอะมากแล้ว เอาเป็นว่า Blog ผมจะพยายามทำให้สั้นและกระชับที่สุดนะครับและจะพยายามใช้รูปภาพในการประกอบให้เยอะที่สุดด้วยเช่นกัน…. [ a picture is worth a thousand words ]
ตัวความสามารถพิเศษต่อมาที่ผมจะพูดถึงก็คือตัว
Webtop
ซึ่ง Webtop จะให้อธิบายสั้นๆเข้าใจง่ายในความรู้สึกของผมก็คงจะเป็น
“การจับ MOTOLORA ATRIX มาเป็นเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเอาไว้ใช้งานทางด้านต่างๆคล้ายเราใช้ Windows”
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับมาดูกันแบบเต็มๆเลยดีกว่าว่า Webtop บน Motolora Atrix มีหน้าตาเป็นเช่นไร

เป็นยังไงบ้างครับ ตัว Webtop ของ Motorola Atrix โดยคร่าวๆ มันก็คล้ายๆกับการแปลง Atrix มาใช้งานเป็นเครื่อง Desktop ครับ นอกจากนี้เราจะเห็นว่า จะมี Mobile View ซึ่งจะแสดงผลตามหน้าจอใน Atrix ของเราจริงๆ ซึ่งเราสามารถที่จะใช้งาน Application ต่างๆที่อยู่บนเครื่อง Atrix เราได้เลย และยังสามารถแสดงผลออกมาเป็นแบบ Full Screen ได้ด้วย


.
.
.
.
.
.
อันนี้ผมลองเปิดโปรแกรม MOLOME นะครับ เราก็สามารถใช้งาน MOLOME บน Webtop ได้เลย จอใหญ่สะใจดีครับ ฮิๆ หลายๆ คนคงสงสัยว่าแล้วผมจะคอนโทรลการใช้งานได้อย่างไร ก็มาดูรูปต่อไปเลยครับ ตัวเครื่อง Atrix เมื่อเปิดใช้งาน Webtop mode แล้วจะแปลงกลายออกมาเป็นเหมือน Touch Pad ยังไงยังงั้น ตรงพื้นที่สีดำๆ นั้นเราก็เอานิ้วเราลากๆ ตำแหน่งของ Mouse cursor บน Webtop ก็จะลากตามครับ 😉
และขณะที่เราใช้งาน Webtop อยู่ในหากว่าเพื่อนเราจาก Whatsapp ทักเราเข้ามา ในหน้าจอ Webtop ก็จะแสดง Notification แล้วเราก็สามารถที่จะตอบกลับบน Webtop ได้เลย


.
.
.
.
.
.
อย่างรูปบนนี้เป็นการแสดง Whatsapp Notification นะครับ นอกจากนี้หากเราสังเกตุ Shortcut ข้างล่างก็จะเห็นว่าเราสามารถใช้งานโทรศัพท์บน Webtop ได้เลยเช่นกัน รวมไปถึงการบริหาร Contact และ Mail ซึ่งการใช้โทรศัพท์จะเป็นโหมด Speaker Phone นะครับ หรือหากเราใช้ Bluetooth ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน
ส่วน Application Bar ด้านล่างส่วนขวา ไล่มาเลยนะครับก็จะคือ File Manager เอาไว้ดูแลจัดการไฟล์ต่างใน Atrix .. ถัดมาก็จะเป็น shortcut ที่เอาไว้เปิด Webtop Zone ต่อมาก็เป็น Firefox Browser และก็ Facebook ส่วนอันหลังสุดนี้ผมจำไม่ได้แหะ >.<!


.
.
.
.
.
.
รูปซ้ายนี้ผมก็เปิด File Manager, Facebook, และ Firefox ให้ดูนะครับ แต่ถ้าสังเกตุดีดี จะมีปัญหาในการแสดงภาษาไทย เช่นเดียวกับที่เราเจอใน Entertainment Center แย่หน่อยครับ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะถ้าอยากให้ใช้ภาษาไทยได้ ก็แค่เข้าไปใน Mobile Mode แล้วไปเปิด Android Browser แล้วปรับให้เป็น Full Screen ก็พอใช้ได้ถูๆไถๆ ไปครับ ส่วนรูปขวาก็เป็น Motorola Application Windows นะครับ ก็จะโชว์ว่า ณ ปัจจุบันนี้มี Application ไหนบ้างที่กำลังใช้งานอยู่ แล้วสามารถที่จะเปิด ปิด สลับไปมาได้ ช่างใช้งาน CPU แบบ Dual Core ได้คุ้มค่าจริงๆ เลยสำหรับ Webtop ตัวนี้ ; )
หลายคนอาจจะสงสัยนะครับ ว่าไม่เห็นผมต้องซื้อ Webtop Add-on มาเลย ทำไมผมใช้งาน Webtop ได้ ตรงนี้ก็ต้องให้เครดิตชาว xda-developers หน่อยนะครับ ด้วยที่เขาได้พัฒนา Rom ที่มีชื่อว่า Ginger Blur แล้วก็พัฒนาให้สามารถใช้งาน Webtop ได้โดยที่ไม่ต้องไปซื้อ Accessories เพิ่มครับ ^0^
และนี้ก็เป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของ Android นั้นเอง ด้วยการที่มันเป็นระบบที่เปิด รองรับให้นักพัฒนาต่อยอดสิ่งต่างๆบน Android ทำให้เราชาว Android มี Application มี Rom มีอะไรต่างๆ ใหม่ๆ มาให้เราได้ลิ้มลองเล่นกันเสมอๆ และสุดท้ายที่จะพูดถึงในวันนี้นะครับซึ่งก็คือ
MOTO Phone Portal
ก็อธิบายง่ายๆ ว่าเจ้า Phone Portal นั้นคือความสามารถในการ manage ข้อมูลต่างๆ บน Motorola Atrix ด้วยคอมพิวเตอร์ของคุณโดยผ่านการเชื่อมต่อแบบ USB หรือ Wifi นั้นเอง

รูปด้านบนอันนี้หากสังเกตุจะเห็นว่าเราใช้วิธีเชื่อมต่อกับ Motorola Atrix โดยผ่าน Web Browser นะครับ ซึ่ง ณ ที่นี้ผมใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบ Wifi น่าตาวิธีใช้งานก็ง่ายเสียแทบจะดีดดิ้น แค่ใส่ Ip address ให้ตรงแล้วเลือก Port ให้ถูกก็เป็นอันจบ (โอ้ เรายังสามารถที่จะตั้งพาสเวิร์ดไว้ได้ด้วยนะครับสำหรับการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย)
มาดูกันดีกว่า ว่าเจ้า MOTO Phone Portal นั้นมีความสามารถที่จะใช้งานอะไรได้บ้าง


.
.
.
.
.
.
โดยหลักๆแล้ว MOTO Phone Portal จะแบ่งออกเป็น 6 เมนูหลัก แต่ที่ใช้กันจริงๆ ก็คงน่าจะเป็นแค่ 4 ส่วนซึ่งก็คือ Home / Contact / Photos / และ Settings
โดยในหน้า Home ก็จะแสดงผล Mobile Inbox ซึ่งจะเป็น รายการ Call Records ต่างๆ และ SMS ส่วนด้านขวาก็จะแสดง รูปภาพล่าสุดในเครื่อง Atrix ซึ่งในหน้านี้เราสามารถที่จะ ส่งข้อความ SMS โดยผ่านตัว Phone Portal ได้เลย (ผมว่ามันก็งั้นๆ อะนะ)
ถัดมาก็จะเป็นส่วนของ Contact ซึ่งเราก็สามารถที่จะ Edit / Import / Export รายชื่อติดต่อของเราได้
ส่วนด้าน Photos ก็ตามชื่อนะครับ เราสามารถที่จะเล่น Slideshows และยังมี Basic Photo Edit เช่น Rotate, Crop อะไรง่ายๆ ได้
ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นส่วน Settings นี้แหละ เพราะในส่วนนี้เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยน Ringtone และสามารถที่จะ Manage Bookmark และ Browsing History ได้ครับ


.
.
.
.
.
.
เป็นยังไงบ้างครับ เรียบร้อยแล้วสำหรับรีวิวประสบการณ์การใช้งาน MOTOROLA ATRIX 4G กับ Gimmick เล็กๆ น้อยๆ ที่เราชาว MOTOROLA พอจะเอาไปคุยโม้กับคนอื่นได้บ้าง ^0^
สุดยอดเลยอะ
เครื่องนอกหรือเครื่องศูนย์ครับเนี่ยถึงทำ Webtop over HDMI ได้
ตัวนี้เป้นเครื่อง AT&T ครับ แล้วตอนที่ทำรีวิวเป็น MotoBlur 4.5